ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พล.อ.อ.ประภาส สอนใจดี ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ในฐานะ ผอ.ศูนย์แถลงข่าวฯ กล่าวถึง ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาส่งสัญญาณสู้รบโดยประกาศยุทธศาสตร์สงครามระยะยาวกับไทยว่า เรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญเพราะผู้นำระดับสูงของกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์และสร้างความเชื่อให้คนกัมพูชา ขอย้ำว่าประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทยไม่มีความขัดแย้งกัน สาส์นที่ออกมาวันนี้ คือการสร้างการมีส่วนร่วมในประเทศของเขา ยืนยันว่าทุกอย่างที่กองทัพไทยดำเนินการ ตามความชอบธรรมและยึดกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งกรณีการใช้โล่มนุษย์และการใช้อาวุธในพื้นที่พลเรือน ซึ่งกองทัพไทยไม่เคยกระทำในสิ่งเหล่านี้
การใช้วาทกรรม โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่สิ่งที่ชาวโลกเชื่อถือ แต่เชื่อถือในข้อเท็จจริง และกฎหมายระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับที่ประเทศไทยกำลังทำอยู่ สิ่งเหล่านี้เราไม่จำเป็นต้องตอบโต้อะไร แต่เราต้องอยู่ในหลักการที่ถูกต้อง ขอให้มั่นใจว่าผู้นำของประเทศไทยรวมถึงกองทัพไทยพร้อมปฎิบัติ เพื่อประชาชน ถ้าสัญญาณต่างๆที่เราปกป้องควบคุมพื้นที่ ถ้ามีการรุกล้ำ เราจะตอบโต้อย่างเหมาะสม และจะทำอย่างต่อเนื่องจนกว่ากัมพูชาจะยอมรับข้อเสนอของไทย
เมื่อถามว่า ผลการประชุมรมว.ต่างประเทศอาเซียน ที่มาเลเซีย ฝ่ายกัมพูชา ได้เสนอขอให้หยุดยิงในเวลา 22.00 น. ของคืนนี้ ในขณะที่ผู้นำจิตวิญญาณของกัมพูชาส่งสัญญาณไปอีกทางหนึ่งจะทำให้การทำงานของกองทัพยากลำบากหรือไม่ พล.อ.อ.ประภาส กล่าวว่า ไม่ยุ่งยาก แต่ให้รอฟังคำแถลงการณ์ที่เป็นทางการจากกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่าหน่วยงานความมั่นคงยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในขณะที่ทหารหน้าแนวสามารถควบคุมพื้นที่ และยืนอยู่บนความเสี่ยงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเราก็ผ่านบทเรียนมาหลายครั้ง
ส่วนจะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ในวันที่ 24 ธ.ค. นี้ พล.อ.อ.ประภาส กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามกลไก แต่ขอย้ำว่า ต้องฟังคำแถลงการณ์ที่เป็นทางการของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนคือการนำข้อเท็จจริงไปสู่เวที การเมืองระหว่างประเทศ
ด้าน พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวเสริมว่า หากฮุนเซน ยกระดับการปะทะชายแดนเป็นสงคราม ถือเป็นประเด็นนี้สำคัญมาก กรณีที่ผู้นำกัมพูชาได้ออกมาชี้แจงว่าเขาได้เตรียมอะไรไว้ ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องบอกใครว่าเราเตรียมอะไรไว้ แต่ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กองทัพไทยมีความพร้อมในการปฎิบัติขั้นสูงสุด ในทุกกรณีที่ผ่านมาเรามีบทเรียน เราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นกับเราอีก เรามีความพร้อมในการปฎิบัติภารกิจโดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกว่าคืออะไร
ขณะที่ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวยืนยันว่า การปฎิบัติการของฝ่ายไทยมีความชอบธรรม ตั้งแต่เกิดการปะทะ การดำเนินการต่อจากนี้ยังคงมีความชอบธรรม ในการเดินหน้าต่อไปในการปกป้องอธิปไตย พร้อมย้ำว่าฝ่ายไทยยังรอกัมพูชาตอบรับ 3 เงื่อนไข ในการประกาศยิงก่อนในฐานะเป็นฝ่ายรุกล้ำอธิปไตยไทยและริเริ่ม แล้วจะนำไปสู่การหยุดยิงและเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ข่าวทั้งหมด