ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำสำหรับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย(MBS)ในโอกาสมาเยือนทำเนียบขาว กรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อคืนนี้(18 พ.ย.)ตรงกับเช้าวันนี้(19 พ.ย.)ตามเวลาประเทศไทย เพื่อกระชับความร่วมมือทางทหารและธุรกิจ ในโอกาสมาเยือนสหรัฐฯครั้งแรกตั้งแต่ปี 2561
นายทรัมป์ได้ประกาศให้ซาอุดิอาระเบีย เป็นพันธมิตรหลัก นอกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต) เพื่อยกระดับความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ขณะที่มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐฯครบ 80 ปีในปีนี้(2568) ว่า เป็นโอกาสพิเศษอีกวาระหนึ่งระหว่างประเทศทั้งสอง อีกทั้งมีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือหลายฉบับ จะเปิดทางไปสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นในหลายๆด้าน
สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจและกีฬาที่มาร่วมงานเลี้ยง เช่น นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของสเปซเอ็กซ์ และเทสลา นายทิม คุก ซีอีโอของบริษัทแอปเปิ้ล และคริสโตโน โรนัลโด นักฟุตบอลชาวโปรตุเกสชื่อดัง ซึ่งปัจจุบันเล่นให้กับสโมสร อัลนาสเซอร์ ในลีกฟุตบอลอาชีพของซาอุดิอาระเบีย
ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการซาอุดิอาระเบีย ตกลงจะซื้อเครื่องบินรบรุ่นเอฟ-35 จำนวน 48 ลำจากสหรัฐฯ ตามข้อตกลงกลาโหมเชิงยุทธศาสตร์ อีกทั้งจะขยายมูลค่าโครงการลงทุนในสหรัฐฯ เป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากเดิม 600,000 ล้านดอลลาร์ จะช่วยสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของภูมิภาคตะวันออกกลาง
ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้แจงว่า การเป็นพันธมิตรหลักนอกนาโต ไม่มีสิทธิ์ได้รับการประกันด้านความมั่นคง ตามมาตรา 5 ของอนุสัญญานาโต ซึ่งโดยทั่วไป สมาชิกนาโตจะได้รับการคุ้มครอง แต่ประกาศฉบับนี้จะมีผลให้สหรัฐฯให้การช่วยเหลือทางทหาร รวมทั้งอาวุธแก่ซาอุดิอาระเบีย ขณะเดียวกัน สหรัฐฯสามารถจะเข้าไปตั้งคลังอาวุธสำรองในซาอุดิอาระเบีย ยามเกิดศึกสงคราม และช่วยเหลือด้านฝึกอบรมทางทหาร ในปัจจุบัน มี 19 ประเทศ เป็นพันธมิตรหลักนาโตของสหรัฐฯ เช่น อิสราเอล ญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์
#สหรัฐ
#ซาอุดิอาระเบีย
#พันธมิตรหลักนอกนอกโต
ที่มา: cnn
ข่าวทั้งหมด