พนักงานบางส่วนของโรงงานผลิตกระดาษทิชชู ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช ซ.8 ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี นั่งรวมกลุ่มกันอยู่นอกรั้วโรงงาน เพื่อติดตามการค้นหาเพื่อนร่วมงาน ที่ยังสูญหายอีก 2 คน พนักงานกลุ่มนี้หนีออกมาได้ทัน ขณะเกิดเพลิงไหม้
นายกฤชกร บุญญานุสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ ยืนยันว่า โรงงานมีระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ทั้งระบบ ระบบสปริงเกอร์ดับเพลิง สัญญาณเตือนภัย ช่องทางหนีไฟ จุดรวมพล และโรงงานฝึกซ้อมการหนีไฟเป็นประจำทุกปี รวมทั้งตรวจสอบช่องทางหนีไฟให้พร้อมใช้งานและเป็นไปตามมาตรฐาน
ขณะเกิดเหตุมีพนักงานทำงานประมาณ 120-150 คน ส่วนใหญ่หนีออกมาทางช่องทางหนีไฟ บางส่วนหนีออกมาทางหน้าต่าง และมารวมกันที่จุดรวมพล ส่วนพนักงานที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ยืนยัน การเยียวยา และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
จากการเข้าสำรวจในพื้นที่ เจ้าหน้าที่พบใต้เศษซากปรักพัง และกองวัสดุบางจุด ยังมีความร้อน ที่อาจปะทุซ้ำ จึงปรับแผน ใช้เครื่องจักรเข้าเคลียร์พื้นที่ รายงานตัวเลขผู้สูญหายล่าสุด พบเสียชีวิตแล้ว 8 คน ยังสูญหายอีก 2 คน
โรงงานยืนยันว่าจะให้การเยียวยาเต็มที่แก่ผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงสนับสนุนด้านจิตใจผ่านทีม MCATT ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันภาวะ PTSD ในพนักงานและญาติ ผู้บริหารโรงงานให้คำมั่นว่าจะค้นหาผู้สูญหายที่เหลือต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใด เพื่อนำกลับสู่ครอบครัว
ตรวจสอบข้อมูล พบโรงงานแห่งนี้ เริ่มประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 2547 แจ้งประกอบเป็นโรงงานลำดับที่ 38 (2) ผลิตกระดาษอนามัย กำลังการผลิต 13,039 แรงม้า คนงาน 123 คน เป็นโรงงานที่ตั้งอยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรม ตาม พ.ร.บ.โรงงาน ซึ่งกำหนดให้ต้องแนบแบบแปลนแผนผังโรงงานและระบบป้องกันอัคคีภัย
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม สั่งการให้นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมด้วยนายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี สั่งการให้ทีมสุดซอยและอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรีร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายบัญชา เชาวรินทร์ และนายอำเภอหนองแค นายสันทัด รันดาเว ตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้และประเมินความเสียหาย
โรงงานถูกสั่งปิดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะประเด็นที่กระดาษทิชชูเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ทำให้ไฟลุกลามรวดเร็ว นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมกำชับให้โรงงานเร่งเยียวยาผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงดูแลผลกระทบต่อชุมชนรอบนิคม