DSI ประสานชุดค้นหาตึก สตง.ถล่ม หากพบปล่องลิฟต์อย่าเพิ่งรื้อถอน

          ความคืบหน้าการสอบสวน และการค้นหาผู้สูญหายในเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.แห่งใหม่ ที่พังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม (2568)

          กรุงเทพมหานคร รายงานเมื่อเวลา 18.00 น. จำนวนผู้ประสบเหตุ 103 ราย เสียชีวิต 83 ราย บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างการติดตาม 11 ราย

         พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยความคืบหน้ากรณี เอกสารที่ตรวจยึดมาจาก สตง.จำนวน 121 ลัง มีการแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นเอกสารกิจการร่วมค้าที่ทำหน้าที่ในการก่อสร้าง การสั่งซื้ออุปกรณ์วัสดุ และการดำเนินการในการก่อสร้าง, ส่วนที่เป็นเรื่องของการแก้ไขแบบ และส่วนที่เป็นเอกสารของ สตง. ที่เป็นเจ้าของสถานที่ ซึ่งจะมีการเรียกเจ้าของเอกสารเข้ามาชี้แจง รวมทั้งมีการพิจารณาจะเชิญพยานบุคคลที่อยู่ในวันที่เกิดเหตุเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยจะมีการทำงานร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ ในการเก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาข้อสรุปสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่ม และประสานไปยังชุดทำงานว่า หากเจอปล่องลิฟต์อย่าเพิ่งดำเนินการรื้อถอน เพราะจะต้องเข้าไปเก็บพยานหลักฐาน

          ส่วนการสอบปากคำวิศวกร ในวันนี้ (2 พ.ค.) วิศวกร 10 คนเข้ามาสอบปากคำเป็นวันสุดท้าย ส่วนวิศวกรที่ถูกปลอมแปลงลายมือชื่อ ต้องรอการตรวจสอบซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน

          นอกจากนี้ จะมีการขอความเห็นจากกรมโรงงานเกี่ยวกับประเด็นเรื่องฝุ่นแดง ว่ามีความเชื่อมโยงกับเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างหรือไม่

           ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ซากอาคาร สามารถเปิดโซนบริเวณใต้ดินและเข้าถึงบริเวณปล่องลิฟต์ได้แล้ว คาดปิดภารกิจค้นหา-รื้อถอนภายในเดือนนี้  นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) เปิดเผยว่า การทำงานค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่องในโซน D2 ซึ่งเชื่อมต่อกับโซน C และเป็นทางเชื่อมไปยังอาคารด้านหลังและลานจอดรถ ยังไม่สามารถเข้าถึงชั้นใต้ดินได้ทั้งหมด คาดว่าบริเวณทางเดินชั้น 3 ซึ่งมีความสูงประมาณ 4 เมตร อาจมีความลึกลงไปอีก 2-3 เมตร อาจพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมในบริเวณนี้

          สามารถเปิดโซนบริเวณใต้ดินและเข้าถึงบริเวณปล่องลิฟต์ได้แล้ว และเร่งค้นหาผู้สูญหาย โดยเฉพาะช่วงทางเชื่อมระหว่างอาคาร ชั้น 3 กับอาคารที่ถล่มลง บริเวณโซน C และอาคาร B ซึ่งเป็นทิศทางหลบหนีของผู้ประสบเหตุ และอาจติดค้างอยู่บริเวณบันได ในขณะที่บางส่วนอาจหนีออกมาทันและกระจายตัวอยู่บริเวณโถงด้านหน้าและขอบอาคาร และข้อมูลจากผู้รับเหมาที่ยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ในบริเวณโซน D ก่อนเกิดเหตุสอดคล้องกับการพบร่างผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ในจุดที่สูงจากชั้นใต้ดินไม่เกิน 1 เมตร

          นอกจากนี้ พิสูจน์หลักฐานและตำรวจบางซื่อ ได้เข้าเก็บเสาปูนอาคาร และผนังช่องลิฟต์ เหล็ก บริเวณช่องตัวอาคารลิฟต์ ที่คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ตึกถล่ม และจะปิดกั้นพื้นที่บริเวณปล่องลิฟต์ตามที่ DSI แจ้งไว้

          ส่วนข้อมูลจากกองอำนวยการร่วม แม้จะสามารถระบุตัวผู้ประสบเหตุได้ครบ 103 รายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดพื้นที่เข้าค้นหาได้ครบทุกโซน จึงต้องดำเนินการต่อเนื่องเพื่อความรอบคอบ และตรวจสอบว่ามีผู้สูญหายเพิ่มเติมจากยอดที่แจ้งไว้หรือไม่ โดยต้องรอการยืนยันจากพนักงานสอบสวนอีกครั้ง คาดว่าการค้นหาและรื้อถอนซากอาคารได้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หากยืนยันว่าไม่มีผู้ประสบภัยตกค้างในพื้นที่ ก็จะเสนอรายงานต่อผู้อำนวยการเขตจตุจักร เพื่อพิจารณายกเลิกการประกาศเขตบรรเทาสาธารณภัย และคืนพื้นที่ให้กับเจ้าของอาคาร

...

#อาคารสตง

#กรุงเทพมหานคร

#DSI