ไทย

5 เท่...น่าเที่ยว จ.ยโสธร

จังหวัดยโสธร เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดในเขตภาคอีสานตอนล่างของประเทศไทย มีชื่อเสียงในการทำบั้งไฟจนได้ชื่อว่า “เมืองบั้งไฟ” ซึ่งจะเฉลิมฉลองในเดือนพฤษภาคม ที่หมู่บ้านบ้านศรีฐาน มีชื่อเสียงในการผลิตหมอนสามเหลี่ยมไทยที่เป็นสัญลักษณ์




งานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก งานประเพณีหนึ่งเดียวในเมืองไทยช่วงวันมาฆบูชา ที่อำเภอมหาชนะชัย

ในเทศกาลวันมาฆบูชาของทุกปี ชุมชนต่าง ๆ ในตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จะนำข้าวตอกขาวที่คัดจากข้าวเปลือกที่ดีที่สุด มาร้อยเป็นมาลัยและประดับตกแต่งอย่างสวยงาม สื่อความหมายแทนดอกมณทารพที่ถวายเป็นพุทธบูชา ในช่วงกลางคืนมีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมเพื่อสมโภชมาลัย จากนั้นก็จะจัดขบวนแห่มาลัยข้าวตอกไปทอดถวาย ณ วัดหอก่อง


ย่านเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ย่านเมืองเก่า ตึกโบราณของยโสธร

ย่านการค้าตั้งแต่สมัยโบราณและได้เจริญขึ้นเมื่อสมัยฝรั่งเศสเข้ามามี อิทธิพลมากในภูมิภาคนี้ในช่วงนั้นเองผู้ที่มีฐานะดี มีการนำเข้าช่างฝีมือจากเวียดนามจำนวนมากเข้ามาสร้างบ้านเรือน ทำให้บ้านเรือนมีรูปแบบศิลปกรรมแบบจีนผสมยุโรปที่งดงาม ปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็นบนสองข้างทาง ถนนศรีสุนทร นครทุม อุทัยรามฤทธิ์ และถนนวิทยธำรง  ซึ่งผู้ที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมท้องถิ่นไม่ควรพลาดในการมาเยี่ยมชม


วัดพระพุทธบาทยโสธร กราบพระพุทธรูปหยกขาว และนมัสการรอยพระพุทธบาทริมน้ำชี

วัดพระพุทธบาทยโสธรแห่งนี้ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท นับเป็นโบราณสถานอันล้ำค่าของจังหวัด  ภายในวัด โดดเด่นด้วยพระอุโบสถสีขาวหลังคาสีน้ำเงิน มีความงดงามตามแบบศิลปะประยุกต์ ทั้งการออกแบบรั้วและระเบียงที่มีลวดลายปูนปั้นที่ดูแปลกตา ภายในประดิษฐานพระประธานที่เจียระไน จากหยกขาวขนาดหน้าตัก กว้าง 2.31 เมตร สูง 3.7 เมตร ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปหยกขาวใหญ่ที่สุดในประเทศไทย


โบสถ์อัครเทวดามิคาอิลบ้านซ่งแย้ โบสถ์คริสต์สร้างด้วยไม้หลังใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่อันซีนของไทย  เป็นโบสถ์ไม้ของคริสต์ศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่บ้านซ่งแย้  ตำบลคำเตย  อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร  และมีอายุถึง 100 ปี มีชื่อเต็ม ๆ ว่า “วัดอัครเทวดามีคาแอล” เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงามแปลกตาของโบสถ์แห่งนี้ได้ทุกวันไม่มีวันหยุด