ไทย

5 เท่...น่าเที่ยว จ.สุรินทร์

สุรินทร์ เป็นจังหวัดที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาช้านาน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ โดยทางรถยนต์ประมาณ 457 กิโลเมตร เป็นดินแดงแห่งช้างมากมาย ในอดีตเราเรียกชาวเมืองว่า “ส่วย” ซึ่งจับช้างมาเป็นพาหนะและขนส่ง ต่อมาจึงได้มีการกำหนดให้กลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นงานประจำปีระดับชาติ มีการแสดงของช้างมากมาย ที่ผู้ชมสามารถเข้าร่วมกิจกรรมและชมการแสดง

ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง

หมู่บ้านช้างเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลกเรียนรู้วิถีชีวิตชาวกวยหรือกูยชนพื้นเมืองตั้งแต่อดีตของสุรินทร์  มีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมเกี่ยวเนื่องกับช้างด้วยชาวกวยเป็นคนเลี้ยงช้างที่มีความรู้ความชำนาญในการจับช้างป่ามาเลี้ยงตั้งแต่ครั้งอดีตร่วมสัมผัสความผูกพันระหว่างคนกับช้าง เพราะชาวกวยเลี้ยงช้างเป็นเสมือนดั่งสมาชิกในครอบครัวก่อให้เกิดความรักความผูกพันเป็นมิตรภาพระหว่างคนกับช้างแตกต่างจากที่อื่นๆที่มุ่งเน้นการเลี้ยงช้างไปเพื่อการงานหรือธุรกิจในบริเวณใกล้เคียงกันชมสถานที่ซึ่งพบเพียงแห่งเดียวในโลกที่เป็นการจารึกความรักความผูกพันระหว่างคนกับช้างตราบลมหายใจสุดท้าย


หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณ

บ้านท่าสว่างหรือที่รู้จักกันในนามหมู่บ้านทอผ้าเอเปค เนื่องจากผ้าทอของที่นี่ได้รับการคัดเลือก เพื่อนำไปตัดเสื้อผู้นำและผ้าคลุมไหล่คู่สมรสผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจที่มาร่วมประชุมผู้นำเอเปค เมื่อปลายปี 2546 จนเริ่มเป็นที่รู้จักประกอบกับชื่อเสียงของ “ผ้าไหมทอหนึ่งพันสี่ร้อยสิบหกตะกอ” ซึ่งเป็นผลงานศิลปหัตถกรรมของกลุ่มทอผ้าไหมยกทองจันทร์โสมาที่มีการอนุรักษ์และฟื้นฟูการทอผ้ายกทองชั้นสูงแบบราชสำนักโบราณ โดยมีอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย เป็นแกนนำผู้รวบรวมชาวบ้านท่าสว่างซึ่งมีฝีมือในการทอผ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมารวมกลุ่มกันทำงาน ทอผ้าที่มีลวดลายผสมผสานกันระหว่างลวดลายการทอสลับซ้อนดิ้นทองแบบราชสำนักกับเทคนิค การทอผ้าแบบพื้นบ้านจนกลายเป็นผ้าไหมยกทองโบราณที่มีความอ่อนช้อยวิจิตรงดงาม


วนอุทยานพนมสวาย

เป็นภูเขาเตี้ย ๆ มียอดเขาอยู่ 3 ยอด ยอดที่ 1 มีชื่อว่ายอดเขาชาย (พนมเปราะ) สูง 210 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมสวาย มีบันไดก่ออิฐถือปูนขึ้นถึงวัด ระหว่างทางเรียงรายไปด้วยระฆังจำนวน 1,080 ใบ ให้ผู้มาเยือนเคาะเพื่อความเป็นสิริมงคล มีสระน้ำกว้างใหญ่และร่มรื่นด้วยต้นไม้ บนเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสุรินทรมงคล เป็นพระพุทธรูปสีขาว ปางประทานพร ภปร. ขนาดหน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 21.50 เมตร มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุที่บริเวณพระนาภี ยอดที่ 2 มีชื่อว่ายอดเขาหญิง (พนมสรัย) สูงระดับ 228 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลาราม ทางวัดได้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์ขนาดกลางประดิษฐานบนยอดเขา และยังมี "สระน้ำโบราณ" 2 สระที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของ เต่าศักดิ์สิทธิ์ ยอดที่ 3 มีชื่อว่าเขาคอก (พนมกรอล) พุทธสมาคมจังหวัดสุรินทร์ได้จัดสร้างศาลาอัฏฐะมุข เป็นอนุสรณ์ฉลองครบรอบ 200 ปี แห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เพื่อประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง จากยอดเขาชายมา


ปราสาทศีขรภูมิ

ปราสาทในศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายที่สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 17  แต่มีการผสมผสานกันระหว่างศิลปะขอมแบบบาปวน (พ.ศ. 1550 – 1650 ) และแบบนครวัด (พ.ศ. 1650 – 1700) ตามหลักฐานต่างๆที่ค้นพบปราสาทศีขรภูมิประกอบด้วยปรางค์อิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกันบริเวณขอบประตูด้านหน้าองค์ประธานมีภาพสลักนางอัปสราหินทรายที่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยอยู่ด้วย


ปราสาทบ้านพลวง

ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท เป็นปราสาทหินขนาดเล็กแต่มีความโดดเด่นด้านลายสลักที่วิจิตรงดงามและสมบูรณ์รูปแบบตำแหน่งและตัวปราสาทมีเอกลักษณ์เฉพาะคือเป็นปรางค์ก่อด้วยหินทรายและมีอิฐเป็นวัสดุร่วมก่อสร้างตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีคูน้ำล้อมรอบนอกจากนี้ปราสาทแห่งนี้ยังเชื่อว่าสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระอินทร์ในราวพุทธศตวรรษที่ 16 – 17 จากหลักฐานซึ่งจะพบทับหลังพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณอยู่เหนือหน้ากาลด้านทิศตะวันออก