ศัลยแพทย์ รพ.ราชบุรี เผย การสวมหมวกนิรภัย ป้องกันอาการบาดเจ็บ จากการขี่จยย.

สถานการณ์อุบัติเหตุของประเทศไทย โดยสถิติของมูลนิธิไทยโรดส์ ระบุว่ารถจักรยานยนต์เกิดเหตุกว่า ร้อยละ80 มีความรุนแรงจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งส่วนมากพบว่าไม่สวมใส่หมวกนิรภัย  นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร ประสาทศัลยแพทย์ รพ.ราชบุรี ได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเฉพาะที่ รพ.ราชบุรี มีผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ทั้งผู้ขับขี่และซ้อนท้ายไม่สวมหมวกนิรภัย เกือบ 100 คนต่อปี ส่วนผู้ป่วยที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ก็จะมีความรุนแรงตามการกระทบกระเทือนต่อสมอง ส่งผลให้การรับรู้ การสั่งการ การจดจำ บุคลิกภาพ ด้านการสื่อสาร การควบคุมอารมณ์ หรือแม้กระทั่งด้านสติปัญญาและจิตใจมีปัญหา สำหรับหมวกนิรภัย จะช่วยป้องกันกะโหลกศีรษะ จากแรงกระทบ

ส่วนสมองจะขึ้นอยู่กับแรงกระเทือน หรือความเร็วในขณะเกิดการชน ถ้าหากชนด้วยความเร็วสูง หมวกนิรภัยก็อาจช่วยไม่ได้ ดังนั้น การขับขี่ด้วยความเร็วเหมาะสม ควบคู่กับการสวมหมวกนิรภัย ก็จะเป็นการป้องกันการบาดเจ็บได้ดีขึ้น เพราะสมองเมื่อถูกทำลาย จะไม่สามารถรักษากลับคืนมาได้ ที่ผ่านมาผู้ป่วยหลังการรักษามีทั้งกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่รับรู้ สั่งการไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ความสามารถของสมองที่น้อยลง เช่น พยาบาลที่เคยเกิดอุบัติเหตุ กระทบกระเทือนสมอง เมื่อรักษาตัวหายแล้วกลับมาทำงาน ก็ไม่สามารถทำในหน้าที่เดิมได้ เพราะสมองด้านสติปัญญาบางส่วนเสียหาย

สำหรับการผ่าตัดสมองจะใช้ระยะเวลามากกว่า 2ชั่วโมงต่อ 1เคส ส่วนผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นวิกฤตจะต้องได้รับการผ่าตัดภายใน 2ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ จึงจะปลอดภัยที่สุด แต่ทั้งนี้แพทย์ด้านประสาทศัลยศาสตร์ ในประเทศไทยที่มีจำกัด โดยจำนวนประสาทศัลยแพทย์ปี 2561 ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีจำนวน 151คน ประจำอยู่ในโรงพยาบาลประจำจังหวัดต่างๆ แต่ก็ยังมีอีก 13 จังหวัดในประเทศ ที่ไม่มีประสาทศัลยแพทย์ คือ แม่ฮ่องสอน น่าน สุโขทัย ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง หนองบัวลำภู บึงกาฬ กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ ระนอง พังงา สตูล ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือมีผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดสมองเร่งด่วน ก็ต้องเคลื่อนย้ายไปยังจังหวัดอื่นที่มีประสาทศัลยแพทย์ต่อไป

นพ.ประดิษฐ์ ย้ำเตือนประชาชนว่า อย่าคิดว่าขับขี่รถจักรยานยนต์ไปแค่ใกล้ๆ ไม่ต้องสวมหมวกนิรภัยก็ได้ เพราะทุกวันนี้ผู้ป่วยที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชบุรี เมื่อรักษาตัวฟื้นมีสติขึ้นมา ก็มักจะบอกหมอว่า วันเกิดเหตุตนขับขี่ หรือซ้อนท้ายไปแค่ปากซอยบ้าน หรือขับขี่อยู่ในซอยข้างภูเขาเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุ แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็ทำให้กระทบไปถึงครอบครัวอีกด้วย