รองนายกฯ บวงสรวงบูรณะราชรถ พระยานมาศ พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

พิธีบวงสรวงเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศและเครื่องประกอบในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณโรงราชรถ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ โดยมีพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีบวงสรวง พร้อมด้วยนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดยพิธีได้เริ่มต้นขึ้นในเวลาฤกษ์ 14.49 น. 

สำหรับพิธีการเริ่มต้นขึ้นเมื่อประธานได้จุดธูปเทียนบูชา เครื่องสังเวย จากนั้นพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณฯ หัวหน้าพราหมณ์หลวง อ่านโองการบวงสรวงเทพยดาและดวงพระวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราช นักแสดงจากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร 9 คู่ รำบวงสรวงด้วยเพลงสาธุการ จากนั้นประธานพรมน้ำอบที่เครื่องมือช่าง นายช่างนำข้าวตอกโปรยที่เครื่องมือ ประธานโปรยข้าวตอกดอกไม้เครื่องสังเวช ก่อนเข้าสู่โรงราชรถและคล้องพวงมาลัยที่มหาพิชัยราชรถ เกรินบันไดนาคพระยานมาศสามลำคาน พระที่นั่งราเชนทรยาน พระวอสีวิกากาญจน์ เวชยันตราชรถ และราชรถน้อย 

พลเอกธนะศักดิ์ กล่าวว่า พิธีบวงสรวงในวันนี้ เป็นพิธีที่มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ก่อนที่กรมศิลปากร ช่างสิบหมู่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อให้การเตรียมงานถวายพระเพลิงพระบรมศพเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

โดยจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ได้ราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่มีความงดงามสมพระเกียรติ โดยเชื่อมั่นในความสามารถของกรมศิลปากร ช่างสิบหมู่ และผู้ร่วมบูรณะปฏิสังขรณ์ทุกคน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการให้เสร็จก่อนเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 และมีการทดลองใช้งาน ทั้งนี้ กรมสรรพาวุุธทหารบกจะดำเนินการเรื่องเพลา ล้อ ยานในการเคลื่อนไหว ส่วนกรมอู่ทหารเรือจะเป็นผู้ถักเชือกที่ใช้ลากดึง อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างการบูรณะปฏิสังขรณ์ ประชาชนก็ยังสามารถเข้ามาชมราชรถได้เช่นเดิม เพียงแต่อาจมีการกำหนดเขตพื้นที่หรือกั้นพื้นที่ตามความเหมาะสม

ส่วนความคืบหน้าการสร้างพระเมรุมาศฯ ในวันที่ 26 ธ.ค เวลา 16.19 น. จะมีการตอกหมุด จำนวน 9 หมุด บริเวณกลางท้องสนามหลวงและใช้ไม้ครอบเป็นรั้วกั้นไว้ ก่อนจะล้อมรั้วอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560 

ทั้งนี้ เบื้องต้น จากการสำรวจพบว่า กระจกที่ประดับองค์พระมหาพิชัยราชรถ เริ่มขุ่นมัว จึงต้องรื้อออกเพื่อเปลี่ยนใหม่ และทำการปิดทองคำเปลวใหม่ ทั้งหมด ตั้งแต่บุษบกลงมาด้านล่าง ส่วนบุษบกขึ้นไปนั้น อาจจะมีการทำความสะอาดเล็กน้อยเพื่อให้สีทองดูเปล่งปลั่งขึ้น เนื่องจากเคยได้รับการบูรณะมาแล้วครั้งสมัยพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดี ขณะที่ ส่วนประกอบราชรถ เช่น ฉัตรธง ที่อยู่บริเวณเกริน และท้ายนาคนั้น จะต้องทำใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มีความสวยงามและสมพระเกียรติ

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม