กกต.เปิดวิธีใช้สิทธิเลือกตั้ง 2569 รับบัตรลงคะแนน 3 ใบ เลือกตั้ง2ใบ-ประชามติ 1

วันนี้, 14:54น.


          สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมออกเสียงประชามติ และแผนผังที่ออกเสียงประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง สส. ในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่มีชื่ออยู่ตามทะเบียนบ้าน โดยผู้มีสิทธิจะได้รับบัตร 3 ใบ โดยมีรายละเอียด จำนวน 10 ขั้นตอน ดังนี้



1. ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ สามารถตรวจสอบรายชื่อจากบัญชีรายชื่อที่ปิดประกาศไว้หน้าที่เลือกตั้ง ซึ่งจะมี 2 ชุดคือ บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งส.ส. และบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการช่วยตรวจสอบและแจ้งลำดับที่ให้ทราบ



2.การเตรียมตัวก่อนเข้าคูหาจำลำดับที่ของตนเอง หมายเลขผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและหมายเลขพรรคการเมืองที่จะเลือก / เตรียมหลักฐานแสดงตน เช่น บัตรประชาชน (หมดอายุก็ใช้ได้) บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการ หรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้ถือบัตร (ที่ยังไม่หมดอายุ) หรือแอพพลิเคชั่น ได้แก่ ThaiID DLT QRLICENCE และบัตรคนพิการ



3. แสดงตนขอใช้สิทธิเลือกตั้งสส. ยื่นหลักฐานแสดงตนและแจ้งลำดับที่ต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง / ลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งส.ส.



4.รับบัตรเลือกตั้งสส. และลงลายมือชื่อที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้งส.ส. ลงลายมือชื่อที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง ทั้ง 2 ประเภท รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ พร้อมรับหลักฐานแสดงตนคืน



5.เข้าคูหาลงคะแนนเลือกตั้งสส.เข้าคูหาลงคะแนน และทำเครื่องหมายกากบาท x ลงในช่องทำเครื่องหมาย ในบัตรทั้ง 2 ใบ โดยบัตรแบบแบ่งเขตเลือกผู้สมัครได้เพียง 1 คนเท่านั้น ส่วนบัตรแบบบัญชีรายชื่อเลือกพรรคการเมืองได้เพียง 1 พรรคเท่านั้น แต่หากไม่ประสงค์เลือกใครให้กากบาท x ในช่อง “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด ” หากไม่ประสงค์เลือกพรรคใดให้กากบาท x ในช่อง “ไม่เลือกบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด ” จากนั้นพับบัตรเลือกตั้งตามรอยพับ แล้วออกจากคูหา



6.หย่อนบัตรเลือกตั้งสส.ลงในหีบบัตรเลือกตั้ง นำบัตรเลือกตั้งพับแล้วหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้งแต่ละประเภทให้ถูกต้องด้วยตนเอง



7.แสดงตนขอใช้สิทธิออกเสียงประชามติหลังจากหย่อนบัตรเลือกตั้งส.ส.เสร็จแล้ว ให้เดินไปยังจุดถัดไปในที่เลือกตั้งเดียวกัน เพื่อขอใช้สิทธิออกเสียงประชามติ โดยยื่นหลักฐานแสดงตนและแจ้งลำดับที่ตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ



8.รับบัตรออกเสียงประชามติและลงลายมือชื่อที่ต้นขั้วบัตรออกเสียงประชามติ ลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ รับบัตรออกเสียงประชามติ 1 ใบ พร้อมรับหลักฐานแสดงตนคืน



9.เข้าคูหาลงคะแนนออกเสียงประชามติ เข้าคูหาและทำเครื่องหมายกากบาท x เพียงช่องเดียวในช่อง“เห็นชอบ”หรือ “ไม่เห็นชอบ” หรือ “ไม่แสดงความคิดเห็น” จากนั้นพับบัตรออกเสียงประชามติตามรอยพับแล้วออกจากคูหา



10.หย่อนบัตรประชามติและออกจากที่เลือกตั้ง นำบัตรออกเสียงประชามติที่พับแล้ว หย่อนลงในหีบบัตรออกเสียงประชามติด้วยตนเองและเดินออกจากที่เลือกตั้งตามทางออกที่กำหนด



          สรุปการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (วันที่ 4) และแบบบัญชีรายชื่อ (วันที่ 3) อย่างไม่เป็นทางการ หลังกำหนดให้วันที่ 27-31 ธ.ค.เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และกำหนดให้วันที่ 28-31 ธ.ค.เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยสรุปการรับสมัครดังนี้



          สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 27-30 ธ.ค. จำนวน 77 จังหวัด มีผู้สมัครทั้งสิ้น 3,451 คน



          พรรคการเมืองที่สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ ระหว่างวันที่ 28-30 ธ.ค. โดยวันที่ 30 ธ.ค. มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครเพิ่มเติม 1 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคความหวังใหม่ (ลำดับที่ 54) ส่งผู้สมัคร 8 คน โดยได้แจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี 1 คน รวมพรรคการเมือง 54 พรรคการเมือง และมีผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งสิ้น 1,520 คน



          การแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้สภาฯ พิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกฯ โดยวันที่ 30 ธ.ค.มีดังนี้



- พรรคไทยพร้อม หมายเลขพรรคการเมืองลำดับที่ 36 แจ้งรายชื่อบุคคลฯ 3 รายชื่อ



- พรรคไทยพิทักษ์ธรรม หมายเลขพรรคการเมืองลำดับที่ 53 แจ้งรายชื่อบุคคลฯ 2 รายชื่อ



- พรรคความหวังใหม่ หมายเลขพรรคการเมืองลำดับที่ 54 แจ้งรายชื่อบุคคลฯ 1 รายชื่อรวมพรรคการเมืองที่เสนอรายชื่อฯ 38 พรรคการเมือง และรวมพรรคการเมืองเสนอรายชื่อบุคคลให้สภาฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกฯ 82 รายชื่อ



          สำนักงาน กกต.ยังได้จัดตั้งศูนย์บริหารการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ (E - War Room) ที่สำนักงาน กกต. เพื่อทำหน้าที่ติดตาม ควบคุม ดูแลและตรวจสอบการหาเสียงเลือกตั้ง ทางอิเล็กทรอนิกส์



         หากพบการกระทำอันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้รายงานต่อคณะทำงานเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและเสนอเรื่องต่อ กกต. พิจารณาสั่งการให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือให้ลบข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ดำเนินไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย



          ศูนย์ดังกล่าวจะปฏิบัติงานทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2568 ถึงวันที่ 8 ก.พ.2569 ระหว่างเวลา 08.30 - 17.30 น. สำหรับวันที่ 8 ก.พ.ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง จะปฏิบัติงานจนถึงเวลา 20.00 น.



#เลือกตั้ง69



 

ข่าวทั้งหมด

X