นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า วันที่ 30 ธันวาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการลดหย่อนการออกเงินสมทบของนายจ้าง และผู้ประกันตนในท้องที่ประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรง พ.ศ. …. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่นายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ
มาตรการดังกล่าวเป็นการปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่งวดเดือนธันวาคม 2568 ถึงเดือนพฤษภาคม 2569 ครอบคลุมพื้นที่ประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรง 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 จะปรับลดอัตราเงินสมทบจากเดิมที่นายจ้างและลูกจ้างนำส่งฝ่ายละ 5 % ต่อเดือน เหลือฝ่ายละ 3 % ของค่าจ้างผู้ประกันตน โดยรัฐบาลยังคงนำส่งเงินสมทบในอัตราเดิม 2.75 % ของค่าจ้างผู้ประกันตนต่อเดือน ขณะที่ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะปรับลดเงินสมทบจากเดิม 432 บาทต่อเดือน (ฐานค่าจ้าง 4,800 บาท) เหลือ 283 บาทต่อเดือน
ด้าน นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า การลดอัตราเงินสมทบครั้งนี้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่นายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้ง 9 จังหวัด คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,401 ล้านบาท โดยผู้ประกันตนสามารถนำเงินส่วนนี้ไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อฟื้นฟูความเป็นอยู่และบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัย เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และช่วยลดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินในช่วงระยะเวลา 6 เดือน ในส่วนของนายจ้าง การลดเงินสมทบดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของสถานประกอบการ เพิ่มสภาพคล่อง และเอื้อต่อการฟื้นฟูกิจการที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ ภายหลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการแล้ว กระทรวงแรงงานจะดำเนินการออกประกาศกระทรวงแรงงานและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
#ลดเงินสมทบประกันสังคม
ข่าวทั้งหมด