การเลือกตั้งในประเทศเมียนมา ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะแรก ในวันที่ 28 ธ.ค. 2568 พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาไปใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมกับแสดงความมั่นใจว่าการเลือกตั้งมีความเสรีและเป็นธรรม ไม่เหมือนการเลือกตั้งครั้งก่อน พล.อ.อาวุโส มินอ่อง หล่ายสวมชุดพลเรือนไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่กรุงเนปิดอว์ในวันนี้ หลังจากคูหาเลือกตั้งเปิดได้ไม่นาน จากนั้นชูนิ้วก้อยที่จุ่มหมึกหลังการใช้สิทธิเพื่อป้องกันการลงคะแนนซ้ำ ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพพร้อมกับยิ้มกว้างและกล่าวว่า รัฐบาลรับประกันได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความเสรีและเป็นธรรม และจะไม่ยอมให้เสียชื่อเสียง เหมือนการเลือกตั้งปี 2563 ที่ผลออกมาเลวร้ายและทำลายชื่อเสียงประเทศ เขารู้ดีเพราะตรวจสอบผลคะแนนครั้งนั้นด้วยตัวเอง สถานการณ์ในครั้งนั้นนำมาซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันเพราะผลการเลือกตั้งไม่ถูกต้อง
สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหลังสุดคือ ในปี 2563 ที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี (NLD) ที่นำโดยนางอองซานซูจี ชนะการเลือกตั้งเตรียมบริหารประเทศเป็นสมัยที่ 2 แต่ถูกกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยกล่าวหาว่า มีการโกงเลือกตั้งจากนั้น พล.อ.อาวุโสมินอ่องหล่ายได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567
การเลือกตั้งเมียนมา เริ่มจากระยะแรกในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ จะจัดการเลือกตั้งใน 102 เมือง ระยะที่ 2 วันที่ 11 ม.ค.ปีหน้า(2569) จัดการเลือกตั้งใน 100 เมือง และการเลือกตั้งระยะที่ 3 จะจัดขึ้นในวันที่ 25 ม.ค.ปีหน้า(2569) ครอบคลุมพื้นที่เลือกตั้งอีก 63 เมือง ส่งผลทำให้ รัฐบาลเมียนมาสามารถจัดการเลือกตั้งได้ครอบคลุมพื้นที่เลือกตั้งประมาณ 265 เมืองจากทั้งหมด 330 เมืองทั่วประเทศ เนื่องจากหลายพื้นที่ยังคงเป็นสมรภูมิรบที่กองทัพสูญเสียการควบคุมให้กับกลุ่มชาติพันธุ์และกองกำลังต่อต้าน
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลต์ออฟเมียนมาของทางการเมียนมาเผยแพร่บทความแสดงความคิดเห็นถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเปิดบทใหม่ให้แก่ประเทศและจะเป็นสะพานให้ชาวเมียนมาก้าวไปสู่อนาคตที่รุ่งเรือง
ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงานว่า คณะผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติประกอบด้วยรัสเซีย จีน เบลารุส คาซัคสถาน กัมพูชา เวียดนาม นิการากัว และอินเดียได้เดินทางมาถึงแล้วเพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้ง
ข่าวทั้งหมด