ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร(23ธ.ค.) นักลงทุนประเมินความสี่ยงเกิดความวุ่นวายทางอุปทานพลังงานจากเวเนซุลากับรัสเซีย และการเศรษฐกิจเติบโตเข้มแข็งเกินคาดของสหรัฐฯ ปัจจัยหลังจากผลักวอลล์สตรีทปิดบวก ขณะที่ทองคำยังคงดีดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ ปิดที่ 58.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 62.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวในวันจันทร์(22ธ.ค.) ว่า สหรัฐอาจเก็บหรือขายน้ำมันที่ยึดนอกชายฝั่งเวเนซุลาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งในมาตรการต่างๆ ที่รวมถึงการปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตร ไม่ให้เข้าและออกจากประเทศในแถบอเมริกาใต้แห่งนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันอังคาร(23ธ.ค.) ตามหลังมีการเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจเป็นชุดๆ ในนั้นรวมถึงตัวเลขที่บ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยผลักให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯดีดตัวขึ้นเช่นกัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 79.73 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 48,442.41 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 31.30 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,909.79 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 133.02 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,561.84 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ในช่วงไตรมาส 3 ขยายตัว 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ถือว่าร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2023 และเหนือกว่าระดับ 3.3% ตามที่พวกนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ได้ปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง
ข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆนานาถูกเผยแพร่ออกมาล่าช้า สืบเนื่องจากภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาล 43 วัน และนักวิเคราะห์คาดหมายว่ามันจะเตะถ่วงเศรษฐกิจเติบโตชะลอตัวในช่วงไตรมาส 4 อย่างไรก็ตามเวลานี้ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสน้อยลงกว่าเดิมที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมกราคม
ราคาทองคำยังคงปรับขึ้นในวันอังคาร(23ธ.ค.) ได้แรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเข้าซื้อของธนาคารกลางต่างๆและอุปสงค์ของนักลงทุน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 0.80 % ปิดที่ 4,505.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวทั้งหมด