สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด น.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ระบุว่า ขณะนี้การสู้รบอยู่ในวงจำกัด คือ พื้นที่ตำบลชำราก อ.เมือง จ.ตราด เท่านั้น ที่ยังมีความเสี่ยงอยู่ ประชาชนยังคงต้องอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยต่อไป
ส่วนพื้นที่อำเภอบ่อไร่ อำเภอคลองใหญ่ ผบ.ฉก.นย.ตราด ระบุว่า หากประชาชนต้องการกลับบ้าน สามารถทำได้ เนื่องจาก ทั้ง 2 อำเภอ ไม่มีเหตุการณ์ปะทะหรือความไม่สงบแล้ว
นอกจากนั้น ทหารนาวิกโยธิน เข้าตรวจยึดอาวุธ ของทหารกัมพูชาได้เป็นจำนวนมาก หลังยึดพื้นที่ฐานทหารเขมร ในพื้นที่บ้านสามหลัง บ้านหนองรี จ.ตราด เช่น จรวดต่อต้านรถถัง PF-89 เครื่องยิงจรวด Type 69 RPG พร้อม ลูกจรวด RPG กระบอกบรรจุกระสุน ปรส. Type 65 ขนาด 82 มม. และ พบ ทุ่นระเบิด ดัดแปลง และ บันทึกพร้อม หลักฐานชี้ชัด กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวาและกฎหมายระหว่างประเทศต่างๆ และ ยังพบว่ามีการวางระเบิดรอบฐานไว้ หวังจะทำร้ายฝ่ายไทยหากบุกขึ้นมา แต่ยังวางไม่เสร็จสิ้น ถูกฝ่ายไทยบุกเข้าโจมตีเสียก่อน
ก่อนหน้านี้ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ. เปิดเผยว่า จากการตรวจยึดและตรวจสอบพื้นที่ฐานพลุ๊กดรัมเรย (บ้านสามหลัง) เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยังได้ตรวจพบเอกสารทางทหารของฝ่ายกัมพูชา เป็นเอกสารการจดบันทึกของผู้เข้ารับการฝึกใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN-2 โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงลักษณะทั่วไปของทุ่นระเบิด การวาง และการเก็บกู้ ซึ่งมีการระบุวันที่จัดการสอนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 อีกด้วย
เอกสารดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชามีการอบรม ให้ทหารกัมพูชาใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มิใช่การกระทำโดยบังเอิญหรือเฉพาะหน้า และสะท้อนถึงเจตนาในการใช้ “สงครามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ต่อฝ่ายไทย ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
#ชายแดนไทยกัมพูชา
#นาวิกโยธิน
#ไทยพร้อมตอบโต้เขมร
ข่าวทั้งหมด