เงินเฟ้อเดือนพ.ย. 68 ติดลบต่อเป็นเดือนที่ 8-น้ำท่วมใต้ กระทบท่องเที่ยว

03 ธันวาคม 2568, 15:08น.


          นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนพ.ย. 68 เท่ากับ 100.15 ลดลง 0.49%YoY (จากที่ตลาดคาด -0.6% ถึง -0.7%) โดยเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ส่งผลให้เงินเฟ้อในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 68) ลดลง 0.12%





          ทั้งนี้ เงินเฟ้อเดือนพ.ย. 68 เป็นการลดลงในอัตราที่ชะลอตัว (ต.ค. 68 ลดลง 0.76%) โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงลดลง มาจากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้าครัวเรือน และน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับลดลงตามสถานการณ์พลังงานในตลาดโลก และมาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ขณะที่สินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากลดลงต่อเนื่องมา 3 เดือน จากการสูงขึ้นของราคาผักสด อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก





          ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนพ.ย. 68 อยู่ที่ 101.64 หรืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.66% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ทำให้เฉลี่ย 11 เดือนปีนี้ (ม.ค.-พ.ย. 68) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.86%



           สำหรับราคาสินค้าและบริการในเดือนพ.ย. 68 เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. พบว่า สินค้าและบริการ ที่ราคาเพิ่มขึ้นมี 223 รายการ อาทิ ปลาทู ผักชี ผักบุ้ง กะทิสำเร็จรูป กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟ กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวราดแกง ค่าเช่าบ้าน ค่าบริการขนขยะ และค่าแต่งผมชาย เป็นต้น ส่วนสินค้าและบริการที่ราคาลดลงมี 191 รายการ อาทิ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไข่ไก่ ต้นหอม กระเทียม ขิง มะม่วง น้ำดื่มบริสุทธิ์ อาหารเดลิเวอรี่ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำยาระงับกลิ่นกาย รถยนต์ และน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ขณะที่สินค้าและบริการที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมี 50 รายการ



          นายนันทพงษ์ ประเมินว่า เงินเฟ้อทั้งปี 68 จะอยู่ที่ -0.15% ถึง -0.20% โดยเป็นการติดลบในรอบ 4 ปี (ตั้งแต่ปี 63 ที่ -0.85%) ปัจจัยหลักจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และมาตรการภาครัฐช่วยค่าครองชีพ ดังนั้น คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อเดือนธ.ค. 68 จะอยู่ที่ -0.48% ถึง -1.08%



          สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส กระตุ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนต.ค.-พ.ย. 68 ดังนั้น หากมีมาตรการต่าง ๆ ทั้งคนละครึ่งพลัส และมาตรการลดดอกเบี้ยครัวเรือนต่าง ๆ ในระยะยาวมากขึ้น ทั้งหมดจะเป็นส่วนช่วยครัวเรือนด้านอุปสงค์ และจะช่วยให้เงินเฟ้อขึ้นมา



          สำหรับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.01-0.05% หรือส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อไม่มาก สำหรับระยะต่อไป คาดอัตราเงินเฟ้อและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) จะอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก การฟื้นฟูต้องใช้ระยะเวลา ทำให้รายได้ของประชาชนในพื้นที่ลดลง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และค่าห้องพักโรงแรม ประกอบกับหนี้ครัวเรือน และหนี้ภาคธุรกิจสูงขึ้น





          กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อปี 69 (ณ เดือน ธ.ค. 68) อยู่ระหว่าง 0.0-1.0% (ค่ากลางอยู่ที่ 0.5%) โดยประเมินบนพื้นฐานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่ 1.2-2.2% น้ำมันดิบดูไบ (ทั้งปี) 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน (ทั้งปี) 32.0-33.0 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ



- ปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 69 ปรับสูงขึ้น ได้แก่



1. ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากนโยบายรักษาเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญ ประกอบกับเกษตรกรมีแนวโน้มลดปริมาณการเพาะปลูกสินค้าที่ราคาต่ำในปีก่อนหน้า ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรบางประเภทจะเข้าสู่ตลาดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น



2. ภาคการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 34.9 ล้านคน (เพิ่มขึ้นจาก 33.4 ล้านคน ในปี 68) และมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 2.79 ล้านล้านบาท ทำให้สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องอาจปรับราคาสูงขึ้น



- ปัจจัยกดดันให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 69 ลดลง ได้แก่



1. ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของปี 68



2. ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่ากระแสไฟฟ้าครัวเรือน ค่าโดยสารสาธารณะ และการตรึงราคาก๊าซ LPG



3. เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำเพียง 1.7% ในปี 69 ต่ำกว่าปี 68 ซึ่งอยู่ที่ 2.0% และเป็นการขยายตัวต่ำกว่า 3.0% เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ทำให้อุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแอ และขาดแรงส่งไปยังเงินเฟ้อด้านอุปสงค์



4. มีแนวโน้มนำเข้าเงินเฟ้อต่ำจากต่างประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศสำคัญขยายตัวในระดับต่ำ ส่งผลให้มีการผลิตและการส่งออกสินค้าที่ราคาลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับเงินบาทที่แข็งค่าจะทำให้ไทยนำเข้าสินค้าราคาต่ำ โดยเฉพาะเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์



 



#เงินเฟ้อไทย



#น้ำท่วมใต้ 



 

ข่าวทั้งหมด

X