พายุหิมะพัดถล่มอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ภาคใต้ของชิลี ดับ 5 ราย

         นายโฮเซ่ รูอิซ ปิฟเซวิค ผู้บริหารระดับสูงประจำภูมิภาคปาตาโกเนีย ทางภาคใต้ของชิลี เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิต 5 ราย(คือ ชาวเม็กซิกัน 2 ราย ชาวเยอรมัน 2 รายและชาวอังกฤษ 1 ราย) หลังพายุหิมะพัดถล่มในอุทยานแห่งชาติ ตอร์เรส เดล ไพเน ในภูมิภาคปาตาโกเนียเมื่อวานนี้(18 พ.ย.) ด้วยความแรงลม 190 กม.ต่อชม.เทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนระดับ 3 ซึ่งต่อมา ทางการชิลีประกาศปิดบางจุดของอุทยานชั่วคราว พร้อมส่งทีมกู้ภัยไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บกู้ศพ นอกจากนี้ ทีมกู้ภัยพบนักท่องเที่ยวอีก 4 คนรอดชีวิต หลังรายงานว่าสูญหายก่อนหน้านี้

         ด้านประธานาธิบดีกาบริเอล โบริช ของชิลีโพสต์ข้อความทาง X แสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ทางการชิลีทราบว่าทุกคนร่วมให้กำลังใจและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กับทางการและสถาบันต่างๆของชิลี ในห้วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ ชิลีได้ส่งทีมกู้ภัยกว่า 20 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองทัพบกไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อร่วมปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ท่ามกลางอากาศแปรปรวน มีหิมะตกหนัก เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของทีมกู้ภัย

         สำหรับอุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไพเน มีธารน้ำแข็งทอดยาวหลายพันไมล์ มีทะเลสาบสีฟ้า ยอดเขาหินแกรนิตสูงตระหง่าน มีน้ำตกและสัตว์ป่าหายาก เป็นแหล่งเดินเขาชื่อดังของชิลีที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมไปท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานแห่งนี้ในปี 2521 เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมพันธุ์พืชและสัตว์ป่า

#หิมะถล่มในชิลี

ที่มา: cnn