นายกฯ ย้ำรักษาสมดุล 2 ประเทศมหาอำนาจ - ไทยเสนอตัวเป็นผู้นำแก้อาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ

03 พฤศจิกายน 2568, 07:24น.


         นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมผู้เกี่ยวข้อง เดินทางกลับจากการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปค นายอนุทิน เปิดเผยว่า การเดินทางไปประชุมในครั้งนี้ รัฐบาลได้มีโอกาสพบปะผู้นำประเทศ ผู้บริหารระดับโลก ซึ่งก็นับเป็นโอกาสที่ดีไทยได้มีโอกาสกลับเข้ามาสู่จอเรดาร์โลก รวมถึงจะได้นำเรื่องที่หารือร่วมกับผู้นำประเทศต่าง ๆ มาใช้เป็นโอกาสพัฒนาด้านเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงทางอาหาร การท่องเที่ยว ลดอุปสรรคด้านการค้า เช่น จากการหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก็มีประเด็นเรื่องแรงงานและมาตรการตรวจคนเข้าเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว ประเด็นการแก้ปัญหาสแกมเมอร์อาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ ซึ่งไทยได้เสนอตัวเป็นผู้นำในการแก้ไข ยืนยันการเจรจาทุกอย่าง ยึดตามผลประโยชน์ของประเทศ



          ส่วนการลงนามร่วมกับประเทศกัมพูชา สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะ ธาตุแรร์เอิร์ธ นั้น ได้ทำภายใต้หลักกฎหมายของประเทศไทยและไม่ได้เป็นการให้สัมปทานอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ



          ส่วนการรักษาสมดุล ระหว่างประเทศมหาอำนาจทั้ง 2 ประเทศนั้น ภาพรวมก็ยังคงยึดตามกรอบภายใต้หลักภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งก็ไม่เพียงเฉพาะผู้นำ 2 ประเทศนี้เท่านั้น แต่ตัวเองก็ได้เชื่อมความสัมพันธ์กับผู้นำประเทศอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย



          ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังได้ชี้แจงประเด็นที่ก่อนหน้านี้ เคยให้สัมภาษณ์เรื่องข้อพิพาทดินแดนโดยได้ขอโทษ และยอมรับว่าตัวเองสื่อสารผิดพลาด ซึ่งการหารือนั้นยังคงยึดตามกรอบรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และกรณีที่มีประชาชนหลายฝ่ายกังวลว่าประเทศไทยจะสูญเสียดินแดนที่ปราสาทตาควายนั้น ตัวเองมองว่าไทยพร้อมที่จะเข้าร่วมเจรจากับกัมพูชาในทุกรูปแบบ เช่น ในวันนี้ที่กัมพูชา ได้เริ่มถอนอาวุธบางส่วนก็นับเป็นนิมิตหมายที่ดี ส่วนจะเปิดด่านเมื่อไหร่นั้น ตัวเองคงจะต้องรับฟังความเห็นของประชาชนและประเมินสถานการณ์อีกครั้ง



          สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทาง 18 เชลยศึกกัมพูชา เตรียมที่จะยื่นขอลี้ภัย ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งการจะส่งตัวทั้ง 18 คนกลับเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับขั้นตอนที่จะต้องหารือ และดูว่าการคุมขังดังกล่าวเกิดประโยชน์กับประเทศหรือไม่



          ด้านนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 ที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ว่า ถือว่าประสบความสำเร็จ ในแง่จังหวะเวลา คือรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศไม่ถึง 1 เดือน นายกรัฐมนตรีได้มีการเจอผู้นำอาเซียนทั้งหมด และเจอผู้นำที่สำคัญ เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ถือว่าประสบความสำเร็จเพราะไม่ใช่แค่ในที่ประชุม แต่ได้มีโอกาสทำความรู้จักความคุ้นเคย นอกห้องประชุม และระหว่างการประชุม ซึ่งจะมีส่วนช่วยอย่างมากในการพัฒนาความสัมพันธ์ และให้เขามีความมั่นใจในประเทศไทย



          ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนและเอเปค ได้มีการพูดคุยในเรื่องสถานการณ์โลกที่สำคัญ ประเทศไทยได้นำเสนอท่าทีที่แข็งขัน ในเรื่องสำคัญ เราต้องมีแนวทางและข้อเสนอที่สร้างสรรค์บางอย่างการจัดการประชุมระหว่างประเทศ ว่าด้วยการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติทั้งหลาย อาชญากรรมไซเบอร์ สแกมเมอร์ ซึ่งได้รับการขานรับที่ดี



          นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การที่เราไปประชุมได้พบปะกับผู้นำ พบปะกับภาคเอกชน นายกฯ ได้มีโอกาสแสดงว่าประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนไปทางไหน เพราะรัฐบาลนี้อยู่ 4 เดือนก็จริง แต่ที่นายกฯ ย้ำ ก็คือ 4 เดือน แต่เรามองรากฐานในระยะยาว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะรัฐบาล แต่เป็นเรื่องความมั่นใจต่อประเทศไทย และทิศทางของประเทศไทยที่จะไปข้างหน้า



 



#ไทยประชุมเอเปค



#อนุทินนายก

ข่าวทั้งหมด

X