ทรัมป์และเฮกเซธ ประชุมร่วมกับนายทหารระดับสูง ย้ำการทำงานเพื่อปกป้องความมั่นคงในประเท

วันนี้, 00:48น.


          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และนายพีธ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม ที่ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงสงคราม กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมนายทหารระดับสูงหลายร้อยนายที่ฐานทัพนาวิกโยธินในเมืองควอนติโก มลรัฐเวอร์จิเนีย



          ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ความยาว 71 นาที โดยมีเนื้อหาที่ครอบคลุมกว้างขวาง ส่วนหนึ่งคือการเล่าถึงการเสนอแนะต่อนายเฮกเซธให้กองทัพใช้เมืองอันตรายเป็นพื้นที่ฝึกซ้อมสำหรับทหาร และกองกำลังป้องกันชาติ เพราะหน่วยความมั่นคงของรัฐบาลกลางจะเข้าสู่ชิคาโกในเร็วๆ นี้ ซึ่งเขาเห็นว่า เป็นเมืองใหญ่ ที่มีผู้ว่าการรัฐที่ไม่มีประสิทธิภาพ ประธานาธิบดีย้ำว่า แม้กองทัพจะมีหน้าที่หลักในการรับมือกับภัยคุกคามจากต่างประเทศ แต่เขามีนโยบายในการใช้กองทัพเพื่อวัตถุประสงค์ภายในประเทศ ที่เขากล่าวว่า “ต้องจัดการศัตรูจากภายในก่อนที่จะควบคุมไม่ได้ ซึ่งเขาหมายถึงอาชญากรและผู้อพยพที่เข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย



          นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความสำเร็จของกองทัพสหรัฐฯ และการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 2 ของเขาเอง รวมถึงการชี้แจงเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และความพยายามยุติสงครามในฉนวนกาซาและในยูเครน ที่เขาอ้างถึงความสำเร็จในการยุติสงคราม 7 แห่ง และหวังว่าจะมีครั้งที่ 8 หากฮามาสยอมรับข้อเสนอสำหรับฉนวนกาซา



          ส่วนนายเฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศว่า กองทัพสหรัฐฯ จะกำหนดมาตรฐานในการทดสอบสมรรถภาพที่มีความเป็นกลางทั้งชายและหญิง ซึ่งเขายอมรับว่าอาจทำให้ผู้หญิงบางคนไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้ นอกจากนี้เขายังให้คำมั่นว่าจะยุติยุคของการไม่เป็นมืออาชีพ และการร้องเรียนโดยไม่เปิดเผยตัวตน รวมถึงการไล่ออกผู้บัญชาการระดับสูงก่อนหน้านี้ ว่าเป็นเพราะบุคคลเหล่านั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลได้ ซึ่งเขาบอกกับนายทหารระดับสูงว่า “ทำในสิ่งที่ควรทำ หรือลาออก” หากไม่เห็นด้วยกับนโยบายรัฐบาล



          อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าการประชุมในครั้งนี้บรรดานายทหารระดับสูงต่างรับฟังคำกล่าวของทั้ง 2 คนอย่างเงียบๆ ตาม  วัฒนธรรมของกองทัพในเรื่องความเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่าเขาไม่เคยเดินเข้าไปในห้องที่เงียบขนาดนี้มาก่อน



          ขณะเดียวกันผู้สังเกตการณ์และนักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยหลายคนยังคงตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงไม่จัดให้เป็นการประชุมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อที่นายทหารเหล่านี้ไม่ต้องเดินทางไกลมาเข้าร่วมการประชุม ซึ่งเป็นนายทหารที่มาจากฐานทัพในยุโรป เกาหลีใต้ และตะวันออกกลาง พวกเขานั่งอยู่ในหอประชุมตามเหล่าทัพของตน ได้แก่ กองทัพบก นาวิกโยธิน กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองทัพอวกาศ ซึ่งสามารถแยกแยะได้ง่ายจากเครื่องแบบ บางคนสวมเหรียญรางวัลที่แสดงว่าเคยปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถาน อิรัก หรือสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของอเมริกาที่เริ่มต้นขึ้นหลังจากการโจมตีในวันที่ 11 กันยายน 2544



....



#กองทัพสหรัฐฯ



#โดนัลด์ทรัมป์

ข่าวทั้งหมด

X