ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เขาไม่ตำหนิประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมประท้วง เพื่อแสดงความไม่พอใจปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการชุมนุมประท้วงหลายครั้งในกรุงมะนิลา เกี่ยวกับโครงการใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานหลายแห่ง โดยครั้งหนึ่งมีนักศึกษาราว 3,000 คนเข้าร่วมที่มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์
แม้ว่าการชุมนุมส่วนใหญ่จนถึงขณะนี้จะเป็นการชุมนุมขนาดเล็ก แต่คาดว่าการประท้วงประจำปี ในวันอาทิตย์นี้ (21 ก.ย.68) ที่เกี่ยวข้องกับการที่อดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส บิดาของประธานาธิบดีคนปัจจุบันประกาศกฎอัยการศึกในปี 2515 จะมีผู้เข้าร่วมการประท้วงจำนวนมาก กองทัพฟิลิปปินส์ประกาศเตือนภัยในระดับสีแดง
ประธานาธิบดี มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวว่า ความโกรธของประชาชนต่อปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว พร้อมย้ำว่า จะไม่ให้ความช่วยเหลือต่อผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเขาหมายถึงกรณีของนายมาร์ติน โรมูอัลเดซ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา ที่ถูกพยานอ้างถึงในการพิจารณาคดี ว่ารับสินบนโครงการป้องกันน้ำท่วมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่กรมการคลังประมาณการว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์สูญเสียเงินมากถึง 118,500 ล้านเปโซ (2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ระหว่างปี 2566 ถึง 2568 เนื่องจากการทุจริตในโครงการป้องกันน้ำท่วม
ฟิลิปปินส์มีประวัติอันยาวนานเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต และนักการเมืองระดับสูงที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดมักจะรอดพ้นจากการต้องโทษจำคุกเป็นเวลานาน
…
#ปัญหาทุจริตในฟิลิปปินส์