นายอี แจ-มยอง ตัวแทนจากพรรคประชาธิปไตย แกนนำฝ่ายค้าน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจัดขึ้นในวันอังคารที่ 3 มิ.ย. 2568 หลังผลการนับคะแนนเสร็จสิ้นไปกวาร้อยละ 80 เขามีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ส่วนคู่แข่ง นายคิม มูน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชนออกมามาประกาศยอมรับ ความพ่ายแพ้แล้ว
ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า นายอี แจ-มยอง มีคะแนนนำอยู่ที่ 49.42% ส่วนนายคิม มูน-ซู ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 41.15%
นายอี แจ-มยอง จัดงานปราศรัยต่อหน้าผู้สนับสนุนที่หน้าอาคารรัฐสภาแห่งชาติของเกาหลีใต้ในช่วงเที่ยงคืนวันอังคารที่ 3 มิ.ย. โดยเขาเริ่มต้นด้วยการขอบคุณผู้สนับสนุนแล้วระบุว่า “ผมจะไม่ลืมหน้าที่ที่ 2 ที่พวกคุณมอบให้ผม ผมจะทำมันด้วยความละเอียดรอบคอบ” “ผลการเลือกตั้งในคืนนี้พิสูจน์แล้วว่า อำนาจมาจากประชาชน” นายอีกล่าว “เราพิสูจน์แล้วว่าอำนาจไม่ควรถูกใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนของประธานาธิบดี แต่เพื่ออนาคตที่สดใสของประเทศนี้” นายอียังสัญญาด้วยว่า เขาจะทำงานเพิ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจตั้งแต่วันแรกที่ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี
“หน้าที่แรก” ที่ชาวเกาหลีใต้มอบให้ผม คือการฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ ส่วน “หน้าที่ที่ 2” คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ “วันพรุ่งนี้ นับตั้งแต่วินาทีที่ผมได้รับการยืนยันว่าได้รับเลือก ผมจะใช้กำลังทั้งหมดในการฟื้นฟูพวกคุณจากชีวิตที่เจ็บปวดโดยเร็วที่สุด”
ว่าที่ผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่ยังแตะประเด็นเรื่องความมั่นคงในการปราศรัยของเขาด้วย โดยเขาให้คำมั่นว่า จะทำให้คาบสมุทรเกาหลีสงบสุข และจะกัดการเจรจากับเกาหลีเหนือ “การสร้างสันติคือวิธีที่แน่นอนกว่าในการสร้างความมั่นคง” พร้อมเรียกร้องให้ชาวเกาหลีใต้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ใช่แตกแยก
ขณะเดียวกัน นายคิม มูน-ซู ก็จัดการแถลงเช่นกัน โดยเขายอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมา พร้อมทั้งขอบคุณผู้สนับสนุน และกล่าวแสดงความยินดีกับนายอี แจ-มยอง กับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
การเมืองของเกาหลีใต้ตกอยู่ในความปั่นป่วน นับตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม 2567 นายยุน ซ็อก-ยอล ที่ตอนนั้นยังเป็นประธานาธิบดี ประกาศกฎอัยการศึกเพื่อควบคุมการบริหารประเทศ แต่พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ซึ่งครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ร่วมกันลงมติคัดค้านการประกาศกฎอัยการศึกของนายยุนได้สำเร็จ
เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การถอดถอนนายยุนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนเมษายน 2568 และทำให้ต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีก่อนกำหนด