ผู้บริหาร ไมนฮาร์ท ยอมรับ มีการแก้ไขลดความหนาปล่องลิฟต์จริง

วันนี้, 06:52น.


        การดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กคร.) กองคดีฮั้วประมูล ศูนย์ราชการฯเชื่อมโยงอาคารสตง.ถล่ม  นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทยฯ เป็นตัวแทนเข้าให้ปากคำประเด็นที่คณะพนักงานสอบสวนกำหนด จากการสืบสวนเชิงลึกของดีเอสไอปรากฏข้อเท็จจริงว่าทั้งบริษัท อิตาเลียนไทยฯ และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ เคยมีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกันมาก่อนหน้าโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างสถานที่ราชการสำคัญแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพฯ ดังนั้นโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. จึงไม่ใช่โครงการแรกที่ทั้งสองแห่งร่วมกันรับผิดชอบและเป็นไปไม่ได้ที่บริษัทอิตาเลียนไทยฯ จะไม่รู้ว่าบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ เป็นบริษัทสัญชาติจีน



          การดำเนินงานของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีตึก สตง.ซึ่งนัดหมายวิศวกรภายใต้กิจการร่วมค้า PKW ที่มีรายชื่อเป็นผู้ควบคุมงานประจำสัปดาห์ประมาณ 20-30 สัปดาห์ที่มีชื่อซ้ำๆ ของวิศวกรกลุ่มดังกล่าว รวม 51 ราย โดยออกหนังสือเชิญแล้ว 40 ราย จะสอบสวนปากคำวันละ 10 ราย แต่ปรากฏว่ามีวิศวกรคอนเฟิร์มมาเพียง 7 ราย ส่วนอีก 3 รายยังติดต่อไม่ได้ แต่ก็อยู่ระหว่างติดต่อเพราะส่งหนังสือเชิญไปตามที่อยู่ตามทะเบียนบ้านและติดต่อประสานไปยังหมายเลขโทรศัพท์ จึงได้ข้อสรุปว่าจะมีการสอบสวนปากคำวิศวกรรอบเช้า 3 ราย และบ่าย 4 ราย ประเด็นที่จะใช้สอบสวนวิศวกรจะมุ่งไปที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ควบคุมงาน มีลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานเป็นประจำสัปดาห์ในหลายๆ สัปดาห์ เพื่อสอบถามความเกี่ยวข้องว่าเกี่ยวข้องอย่างไรบ้างและดำเนินการอย่างไรไปแล้วจึงต้องสอบสวนปากคำก่อน ยังคาดเดาได้ว่าเป็นการถูกปลอมและแอบอ้างชื่อทั้งหมดทุกคนหรือไม่ โดยจะให้วิศวกรดูตัวอย่างลายเซ็นที่เจอในเอกสารด้วยว่าใช่ลายเซ็นตนจริงหรือไม่



          ส่วนกรณีเอกสาร 100 ลังที่ดีเอสไอตรวจยึดจากตู้คอนเทนเนอร์ภายในไซต์งาน สตง.ในส่วนดังกล่าวเอกสารจะเกี่ยวข้องกับหลายส่วน ดังนั้นขั้นตอนถัดไปจะต้องมาคัดแยกเอกสารทั้งหมดก่อนว่าเอกสารใดเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับสัญญา เอกสารแบบแปลน เอกสารด้านการเงิน เอกสารเกี่ยวกับวัสดุ เอกสารการสั่งซื้อ เป็นต้น เพราะพบเอกสารการสั่งซื้อปูนบางส่วน จึงต้องเอาเอกสารทั้งหมดมาคัดแยก คาดว่าภายในสัปดาห์นี้อาจจะเชิญเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมืองมาร่วมตรวจสอบเอกสารด้วย อะไรที่ไม่ใช่เอกสารที่เกี่ยวข้องก็จะคืนบริษัทไป อันไหนเกี่ยวข้องก็จะนำเป็นพยานหลักฐาน



          ด้านนายธีระ วรรธนะทรัพย์ กรรมการของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะหัวหน้าผู้ออกแบบ พร้อมด้วยทีมงานกฎหมายของบริษัท เป็นพยานปากสำคัญ ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีสัญญาการออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (อาคาร สตง.) แห่งใหม่ เป็นเวลา 2 ชม.  นายธีระกล่าวว่า ทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องพร้อมยืนยันว่า ไม่หนักใจ ตอบทุกคำถาม เมื่อถามว่าใครเป็นผู้สั่งการแก้ไขแบบแปลน ลดขนาดความหนาปล่องลิฟต์นั้น นายธีระกล่าวว่า มีการแก้ไขจริง เพื่อให้ขนาดทางเดินมีความกว้างขึ้น



         การตอบคำถามของนายธีระ เรื่องแก้ไขแบบแปลนลดขนาดความหนาปล่องลิฟต์ เนื่องมาจากก่อนหน้านี้ สตง.ได้มีหนังสือชี้แจงถึงสาเหตุการลดขนาดความหนาปล่องลิฟต์ลง 5 ซม. ว่า ผู้รับจ้างออกแบบให้ความเห็นตามหนังสือ (RFI) โดยกำหนดรายละเอียดการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (CORE LIFT) จากความหนา 0.30 ม. เป็น 0.25 เมตร บริเวณด้านทางเดิน และเพิ่มปริมาณเหล็กเสริมให้มั่นคงแข็งแรงตามหลักการทางวิศวกรรม พร้อมจัดทำรายการคำนวณและลงนามรับรอง เพื่อให้ความกว้างช่องทางเดินถูกต้องตามกฎหมายกำหนด (กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522) และสอดคล้องกับรูปแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน แล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน



#สตงถล่ม



#แก้ไขขนาดปล่องลิฟต์ 

ข่าวทั้งหมด

X