คดีนายตำรวจพัวพัน-ฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ ทนายความ พร้อมด้วยนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการขอออกหมายเรียกที่มีรายชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่อศาลอาญาของพนักงานสอบสวน พบว่าการที่พนักงานสอบ สวนยังดำเนินการอยู่ ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะข้อเท็จจริงที่กล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีการส่งเรื่องไป ป.ป.ช.และมีมติรับเรื่อง เมื่ออำนาจการสอบสวนไม่ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวนแล้ว และพนักงานสอบสวนจะดำเนินการอย่างใดนั้น พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า การออกหมายจับในช่วงนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และทีมทนายเข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยว่าเป็นการดิสเครดิต เพราะเป็นรองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 เป็นแคนดิเดตที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง การออกหมายจับในช่วงนี้ ทำให้เสียหายทั้งชื่อเสียง และมีผลเกี่ยวกับการการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.ในห้วงเวลาที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่เดือนนี้
นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ระบุว่ามีเส้นทางการเงินไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ว่าจาก สน.เตาปูน หรือกรณีการส่ง ป.ป.ช. ไม่ใช่ข้อเท็จจริงใหม่ หรือเส้นทางการเงินใหม่ ส่วนพนักงานสอบสวนจะไปให้ข้อมูลศาล หรือสื่อมวลชนอย่างไรนั้น ต้องรับผิดชอบเอง วันนี้ต้องพิจารณาว่าพนักงานสอบสวนนำเรื่องนี้มาขออำนาจศาลออกหมายจับ มีอำนาจดำเนินการหรือไม่ เพราะ ป.ป.ช.มีมติรับเรื่องนี้ไว้พิจารณาแล้ว โดย พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 30 และมาตรา 28 เห็นว่าคดีที่มีความเกี่ยวเนื่อง เกี่ยวพัน หรือมีกรรมเดียว หรือมีผู้สนับสนุนในเครือข่ายเดียวกัน เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการไต่สวนสอบสวนคดีนี้ ศาลมีคำสั่งไม่ออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอ และในส่วนของการให้ข่าวว่าศาลออกหมายเรียกนั้น ทางทนายความได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ศาลไม่มีคำสั่งนี้ เพราะการออกหมายเรียกเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มอบหมายให้ทีมทนายความเก็บพยานหลักฐานทุกอย่างที่เผยแพร่ต่อสื่อมวลชน เพื่อใช้ปกป้องสิทธิ และยืนยันว่าข้อกล่าวหา พฤติการณ์ และเส้นทางการเงินที่พาดพิงมาถึงนั้น ไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าไม่เคยมีเส้นทางการเงินใดเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ส่วนเงินที่ส่งมอบให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ นำไปใช้จ่ายเรื่องต่าง ๆ เป็นเงินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ใช่เงินเว็บพนัน ในส่วนรายละเอียดทางคดียังอยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียด
มีรายงานเพิ่มเติมว่ารายชื่อตำรวจที่ถูกออกหมายจับ 3 นาย ประกอบด้วย
-พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา หมายจับที่ 1063/2567 ข้อหา “สมคบฯ ฟอกเงิน , เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน”
-ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว หมายจับที่ 1064/2567 ข้อหา “สมคบฯ ฟอกเงิน , เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน”
-ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร หมายจับที่ 1065/2567 ข้อหา “สมคบฯ ฟอกเงิน , เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน”
ส่วนพลเรือน 1 ราย คือ นายณพรรษกร (อู๊ด หาดใหญ่) หมายจับที่ 1066/2567 ลง 12 มีนาคม 2567 ข้อหา “สมคบฯ ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน”
#โจ๊กพัวพันคดี
#ตำรวจออกหมายเรียก