แม่ทัพภาคที่ 4 เยี่ยมผู้บาดเจ็บเหตุโกดังระเบิด คาดโกดังเก็บพลุ-ดอกไม้ไฟกว่า 5 ตัน

30 กรกฎาคม 2566, 16:21น.


       หลังเกิดเหตุโกดังเก็บประทัดและดอกไม้ไฟ ซึ่งตั้งอยู่บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ได้เกิดระเบิดขึ้นในขณะที่ช่างกำลังเชื่อมต่อเติมชั้นวางของภายในโกดัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย สูญหาย 1 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 121 ราย พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมายังกองอำนวยการร่วม ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์พักพิงชั่วคราว สนามกีฬา อบต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อรับฟังการบรรยายสรุป



       แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้บูรณาการในการปฏิบัติ แบ่งการทำงานให้ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของการขออนุญาตการตั้งโกดังถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากมีผลต่อการช่วยเหลือ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ อี.โอ.ดี. ต้องเร่งและประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พบหลุมระเบิด 2 จุดในโกดังค่อยข้างลึก หากเป็นระเบิดจะมีน้ำหนักประมาณกี่กิโลกรัม และในส่วนของการครอบครองดอกไม้ไฟสามารถเก็บไว้ในโกดังได้เท่าใด ซึ่งได้สั่งตรวจสอบโกดังต่างๆในพื้นที่ จ.นราธิวาส ไปแล้วมีทั้งหมด 52 แห่งว่ามีการดำเนินการตามระเบียบของการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นมาอีก

          ด้านแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด ได้ให้ข้อมูลว่า จากการประเมินของหลุมระเบิด รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากดินดำหรือดินเทาที่เป็นส่วนผสมของดอกไม้ไฟที่เก็บไว้ในโกดัง ซึ่งมีปริมาณมาก 2 ถึง 3 คันรถสิบล้อนั้น คาดว่าจะมีน้ำหนักมากถึง 5 ตันหรือ 5,000 กิโลกรัมมีรัศมีการทำลายล้างไกลถึง 2 ก.ม.



          ส่วนการขออนุญาตมีการจดทะเบียนชื่อร้าน โดย น.ส.ปิยะนุช ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมปอง ที่จำหน่ายสินค้าการเกษตร ของใช้ในครัวเรือน รวมทั้งประทัดและดอกไม้ไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานไปยังนายสมปองและภรรยา ซึ่งได้รับทราบเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งว่าจะมาพบเจ้าหน้าที่เมื่อใด เพราะได้พาสมาชิกในครอบครัวไปท่องเที่ยวต่างพื้นที่ในช่วงวันหยุดยาว



          จากนั้น แม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกสังกัดที่ปฏิบัติหน้าที่ให้การช่วยเหลือประชาชน ที่จุดเกิดเหตุ รวมถึงเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก



          ด้านสอบสวนมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 50 นาย กำลังกระจายกันเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มูโนะ โดยพนักงานสอบสวนได้แยกย้ายกันทยอยสอบสวนปากคำชาวบ้านแต่ละหลังที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งคาดว่าการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียดและรัดกุมอาจจะต้องใช้เวลานานอีกสักระยะจึงแล้วเสร็จ



          นอกจากนี้ที่บริเวณถนนสายหลักข้างจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจรขาเข้าพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 1 ช่องทาง เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งโรงครัวพระราชทาน ในการปรุงอาหารให้ประชาชนที่ประสบเหตุได้รับประทาน พร้อมตั้งเต็นท์รับแจ้งความเสียหายจากเจ้าหน้าที่ศูนย์เยียวยา จ.นราธิวาส เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลให้การช่วยเหลือในโอกาสต่อไป โดยจุดตรงนี้ก่อนช่วงเดือนรอมฎอน ได้สั่งการไปแล้วครั้งหนึ่งว่า ร้านค้าที่ขายพลุประทัดต่างๆใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ให้ทำการตรวจสอบในทุกพื้นที่ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งอาจจะมีหลงเหลือหรือแอบกันอยู่บ้าง หลังจากนี้ไปให้ตรวจสอบทุกจังหวัด ให้เข้าในทุกโกดังร้านค้าว่าถูกต้องหรือไม่ ทั้งครอบครอง เคลื่อนย้ายหรือจำหน่าย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก



          ด้าน พล.ต.ต.อนุรธ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางคดีนั้น มีความผิดหลายกระทง คือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับบาดเจ็บตามประมวลกฎหมายอาญา ห้ามมิให้ผู้ใดทำหรือสั่งนำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการเก็บรักษาดอกไม้เพลิงอันอาจเป็นอันตรายแก่ประชาชน ตาม พรบ.อาวุธ เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490



 



#โกดังระเบิด



#นราธิวาส 

ข่าวทั้งหมด

X