นางจอร์เจีย เมโลนี วัย 45 ปีสาบานตนต่อประธานาธิบดี แซร์จิโอ มัตตาเรลลา รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลีอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความตึงเครียดภายในพรรคร่วมรัฐบาลตลอดสัปดาห์ ทั้งในเรื่องบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และจุดยืนต่อสงครามในยูเครน
และในขั้นตอนต่อไปคือ รัฐมนตรีทุกคนจะต้องผ่านการลงมติรับรองจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในสัปดาห์หน้า
โดยเมื่อปลายเดือนกันยายน พรรคภราดรแห่งอิตาลี (Brothers of Italy) ของเธอ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาชนะการเลือกตั้ง ได้รับคะแนนสนับสนุนมากกว่าร้อยละ 25 และจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคพันธมิตรฝ่ายขวาอีก 2 พรรค คือ เดอะลีก (The League) ที่มีนโยบายขวาจัด ของนายมัตเตโอ ซัลวีนี กับพรรคฟอร์ซา อิตาเลีย (Forza Italia) ของนายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี
แต่กลุ่มพรรคการเมืองที่จะรวมตัวกันจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดสรรบุคคลมาเป็นรัฐมนตรี นอกจากนี้ ในการประชุมรัฐสภาวาระแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน ยังมีการเผยแพร่ภาพกระดาษบันทึกของนายแบร์ลุสโคนี ที่เขียนวิพากษ์วิจารณ์นางเมโลนีอย่างรุนแรง เนื่องจากเธอปฏิเสธที่จะแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดของเขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากนั้นก็มีการเผยแพร่คลิปเสียงของนายแบร์ลุสโคนีที่โอ้อวดว่ามีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ทั้งเห็นว่า ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ต้องรับผิดฐานทำให้เกิดสงคราม ซึ่งส่งผลกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากตลอดเวลาที่มีการรณรงค์หาเสียง นางเมโลนีพยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อชาติตะวันตกว่าอิตาลีสนับสนุนจุดยืนของนาโต และสนับสนุนยูเครน
นางเมโลนี ยืนยันว่า อิตาลีเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป หรืออียู และนาโต หากไม่เห็นด้วยกับหลักการนี้ก็คือไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลจอร์เจีย
อิตาลีมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรป และกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ราคาพลังงานเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นสูง ค่าครองชีพพุ่งสูง และได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครน ซึ่งนางเมโลนี กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีมีความพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ ในยุคปัจจุบัน
...
#อิตาลี
#จอร์เจียเมโลนี