หลังกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ส่งโดรนและยิงขีปนาวุธโจมตีสถานที่สำคัญในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) เช่น โรงกลั่นน้ำมัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย นอกจากนั้นยังใช้จรวดและโดรนโจมตีสนามบินทั้งในอาบูดาบีและดูไบด้วย ทำให้UAEประกาศกร้าวขอตอบโต้
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ราคาน้ำมันปิดตลาดเมื่อวานนี้(18ม.ค.65 ) เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 จากความกังวลเกี่ยวกับความวุ่นวายหลังเหตุโจมตีในตะวันออกกลาง
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร(18ม.ค.) ปิดลบแรง
-ดาวโจนส์ ลดลง 543.34 จุด (1.51%) ปิดที่ 35,368.47 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 85.74 จุด (1.84%) ปิดที่ 4,577.11 จุด
-แนสแดค ลดลง 386.86 จุด (2.60%) ปิดที่ 14,506.90 จุด
หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลดลงเกือบ 4% หลังจากเปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรลดลงในไตรมาส 4/2564 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปี แตะระดับ 2% ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับกรณีที่เฟดใช้มาตรการเชิงรุกเพิ่มเติมในการจัดการกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังไม่อ่อนตัวลง
แรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ฉุดให้ราคาทองคำในวันอังคาร(18ม.ค.65) ปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
-ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,812.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#น้ำมันพุ่ง
#กบฎฮูตีโจมตีUAE
CR:CNN