“จะคุณหรือผม ก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของคนเมาแล้วขับได้ทุกเมื่อ”

      มูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเวทีสาธารณะ "เมาแล้วขับ รวยก็ไม่รอด(คุก)" ที่โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน ถ.รัชดาภิเษก โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา เป็นประธานในพิธีและมีผู้ร่วมเวทีฯ อีกหลายคนที่เกี่ยวข้อง นายคารม พลพรกลาง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่  พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. นายเจษฎา แย้มสบาย เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกรุงเทพฯ ร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อเรียกร้องให้ผู้รักษากฎหมายหรือผู้มีอำนาจในการชี้ถูกผิดให้ความเป็นธรรมกับเหยื่อเมาแล้วขับทุกคดีหรือทุกคนที่ต้องทุกข์ทรมาน มีบาดแผลในจิตใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เหยื่อบางคนได้รับผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตหรือบาดเจ็บมาจนถึงปัจจุบัน 

      นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า ในแต่ละปีมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงกว่า 20,000 คน สาเหตุอันดับ 1 มาจากการเมาแล้วขับชนคนตาย ซึ่งยังไม่รวมผู้ได้รับบาดเจ็บอีกนับล้านคน และผู้พิการที่เพิ่มขึ้นปีละ 60,000 คน กว่า 23 ปี ที่ทางมูลนิธเมาไม่ขับทำการขับเคลื่อนการรณรงค์ และบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมาโดยตลอด แต่ก็ยังพบว่ามีผู้กระทำผิดสูงอยู่ เนื่องจากมีระบบสังคมอุปถัมภ์ ระบบคอร์รับชั่นของเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายบางกลุ่ม นอกจากนี้การลงโทษผู้กระทำความผิดที่น้อยเกินไป จึงไม่เกิดความเกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงมีประโยคที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” สร้างความเจ็บปวดในใจของคนไทย

      นอกจากนี้ยังมีเหยื่อที่ได้รับอุบัติเหตุ จากการเมาแล้วขับมาร่วมเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นคือ นายเจษฎา แย้มสบาย อายุ 48 ปี ประสบอุบัติเหตุถูกคนเมาขับรถชนเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน จากที่เคยประกอบอาชีพขายของที่สีลม มีรายได้เกือบ 1 แสนบาทต่อเดือน แต่กลับถูกคนเมาขับรถเก๋งชนและลากไปตามถนนจนพลเมืองดีต้องเข้ามาช่วยหยุดรถ ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัสไปอยู่ใต้ท้องรถ แขนขาถลอกจนเหลือแต่กระดูก ทางบ้านต้องเอาทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งบ้าน รถ ไปขายเพื่อมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยที่คู่กรณีไม่ได้ชดเชยเยียวยาใดๆ ทำให้ต้องกลายเป็นผู้พิการตลอดชีวิต เคยคิดฆ่าตัวตาย  3 ครั้ง ด้วยการเอามีดแทงตัวเอง กรีดข้อมือ และกินน้ำยาล้างห้องน้ำแต่รอดมาได้ ปัจจุบันกินพริกได้เป็นร้อยเม็ดโดยไม่รู้สึกเผ็ดเพราะลิ้นไม่สามารถรับรสได้ ส่วนคู่กรณีไม่ได้รับการลงโทษเนื่องจากกฎหมายตัดสินให้ประมาทร่วม 

        เมื่อเราอยู่หลังพวงมาลัยรถแล้ว ไม่ต่างจากกับการถือปืนไว้ในมือพร้อมที่จะฆ่าคนได้ตลอดเวลา ทุกคนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเมื่อไหร่ก็ได้ แม้ว่าเราขับรถถูกต้องตามกฎจราจร แต่เมื่อมีคนเมาขับมาชนเราบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต อาจจะต้องเจ็บตัวหรือเสียชีวิตฟรี ดังตัวอย่างของนายเจษฎา ที่เป็นทั้งเสาหลักของครอบครัวต้องพิการจากการกระทำที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้น