ไทย

5 เท่...น่าเที่ยว จ.อำนาจเจริญ

อำนาจเจริญ เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานหลายร้อยปี แม้อำนาจเจริญจะเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยว ที่น่าชม ทั้งวัดวาอาราม ธรรมชาติที่สวยงาม และแหล่งหัตถกรรมฝีมือชาวบ้านที่น่าเที่ยวชม

วนอุทยานภูสิงห์ ภูผาผึ้ง

ตั้งอยู่ที่ หมู่ 7  ตำบลนกทา พื้นที่เป็นภูเขาหินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหัวกอง ดงบังอี่ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ และอำเภอปทุมราชวงศา มีเนื้อที่ประมาณ 17,000 ไร่ สภาพป่าเป็นป่าเต็งรังผสมกับป่าเบญจพรรณ และเป็นแหล่งต้นน้ำของลำห้วยสีโท นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวและเส้นทางปั่นจักรยาน   การเดินทางจากอำเภอเมือง อำนาจเจริญใช้เส้นทาง ทล.202 ระยะทาง 20 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้า ทล.3024 ไปอีก 4 กิโลเมตร 


พุทธอุทยาน

พุทธอุทยานและพระมงคลมิ่งเมือง ตั้งอยู่ที่เขาดานพระบาท ห่างจากตัวเมืองไปทางด้านเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร บริเวณวัดเป็นหินดานธรรมชาติร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้เป็น พุทธอุทยาน ส่วนพระมงคลมิ่งเมือง หรือพระใหญ่ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 11 เมตร ความสูงจากระดับพื้นดินถึงยอดเปลวรัศมี 20 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่ได้รับอิทธิพลสกุลศิลปะอินเดียเหนือ (ปาละ) ที่แผ่อิทธิพลมายังภาคอีสานของไทย เมื่อพันปีเศษ


วัดถ้ำแสงเพชร

หรือวัดศาลาพันห้องตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ถนนเขมราฐ อำนาจเจริญ  เป็นวัดที่มีบริเวณกว้างขวาง ประกอบด้วย วิหารอยู่บนยอดเขาสูง ทางด้านทิศเหนือของวิหารมีถ้ำขนาดใหญ่ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงาม เหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำแสงเพชรเนื่องมาจากประกายวาววับของเกล็ดหินยามเมื่อกระทบกับแสงตะวันคล้ายกับแสงเพชร วัดนี้ยังเป็นที่ปฏิบัติธรรมสายพระอาจารย์ชา สุภัทโท สาขาที่ 5 ของวัดหนองป่าพง   การเดินทางจากอำเภอเมือง ใช้เส้นทาง ทล. 202


อ่างเก็บน้ำห้วยสีโท

อ่างเก็บน้ำเอนกประสงค์เพื่อการกสิกรรม เป็นอ่างเก็บน้ำที่สวย เกิดจากเทือกเขา 2 ลูก จนกลายเป็นแอ่งกะทะ บรรยากาศสวยงามทั้งเช้าและเย็น เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวอำนาจเจริญ  การเดินทางใช้ถนนอำนาจเจริฐ-เขมราฐ


วัดพระเหลาเทพนิมิตร

เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบ มีขนาดหน้าตักกว้าง 2.85 เมตร สูง 2.70 เมตร ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอำนาจเจริญ ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายในพระอุโบสถ วัดพระเหลาเทพนิมิต ต.พนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ ตามประวัติ บรรพบุรุษผู้สร้างบ้านแปลงเมืองบ้านพนา ได้พากันอพยพมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณดงสูง ริมกุดบึงใหญ่ หรือกุดพระเหลาในปัจจุบัน "พระครูธิ” พระที่ชาวบ้านให้การเคารพนับถือ ได้ชักชวนให้ร่วมกันสร้างวัดบริเวณริมกุดบึงใหญ่ และให้ชื่อวัดแห่งนี้ว่า "วัดศรีโพธิชยารามคามวดี” โดยมีพระครูธิ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก หลังสร้างวัดเสร็จในปี      กล่าวกันว่า ‘พระเหลาเทพนิมิต’ เป็นพระพุทธรูป ที่มีพระพุทธลักษณะงดงามที่สุดในภาคอีสาน ตามแบบฉบับศิลปะลาว สกุลช่างเวียงจันทร์ ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะช่างล้านนาและมีฝีมือช่างท้องถิ่นปรากฏอยู่มาก เช่น เค้าพระพักตร์ เปลวรัศมีที่ยืดสูงขึ้น สัดส่วนของพระเพลาและพระบาท คล้ายคลึงกับองค์พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในปลายพุทธศตวรรษที่ 23-25