ไทย

5 เท่...น่าเที่ยว จ.สมุทรสงคราม

สมุทรสงครามอยู่ไม่ไกลเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ มากนัก แต่ชาวบ้านก็ยังมีวิถีชีวิตแบบไทยดั้งเดิมอยู่ค่อนข้างมาก หากใครชอบการท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิม การเที่ยวที่จังหวัดสมุทรสงคราม  จะเป็นสถานที่ที่สามารถชมสวนผัก , การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว หรือการเที่ยวชมตลาดน้ำท่าคา





 


ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม อยู่ริมคลองใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม เปิดบริการวันศุกร์ เสาร์อาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์เวลา 12.00-21.00 น. เป็นตลาดน้ำชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่จะไม่พลาดมาชิมของอร่อยที่นี่  ในคลองอัมพวามีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และมีรถขายของบนสองฝั่งคลอง บรรยากาศสบายๆ มีเพลงฟังจากเสียงตามสายของชุมชน สามารถเช่าเรือเที่ยวชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืนได้ ชุมชนริมคลองอัมพวา ได้รับรางวัลชมเชย (Honorable Mention) จากการประกวดรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก แห่งองค์การยูเนสโก ประจำปี พ.ศ.2551 (UNESCO Asia-Pacific Heritage Awards for Culture Heritage Conservation) ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการอนุรักษ์อาคารเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าและมีความงดงามด้านสถาปัตยกรรมและสะท้อนถึงลักษณะสำคัญทางท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี


วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดหลวงพ่อบ้านแหลม) อำเภอบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม

วัดเพชรสมุทรวรวิหารหรือวัดบ้านแหลม อยู่ถนนเพชรสมุทร อยู่ติดกับตลาดบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เดิมชื่อวัดศรีจำปา เป็นวัดสำคัญของจังหวัด ตามพงศาวดารฉบับราชหัตถเลขา ปี พ.ศ.2307 ข้าศึกยกทัพเข้ามาตีเมืองเพชรบุรี แต่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาได้ยกทัพมาช่วยรักษาเมืองไว้ได้ ชาวบ้านแหลมในเขตเมืองเพชรบุรีอพยพหนีข้าศึกมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณตำบลแม่กลองเหนือวัดศรีจำปา จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านแหลม”  ตามชื่อบ้านเดิมของตนในเมืองเพชรและช่วยกันบูรณะวัดศรีจำปา เรียกว่า “วัดบ้านแหลม” บูรณะวัดศรีจำปา เรียกว่า “วัดบ้านแหลม" ชาวบ้านแหลมนี้ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นชาวประมง คราวหนึ่งได้ออกไปลากอวนในอ่าวแม่กลองพบพระพุทธรูปติดอวนขึ้นมา 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่ง อีกองค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปยืน พระพุทธรูปนั่งได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี สำหรับพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตร สูงประมาณ 167 เซนติเมตร (แต่บาตรสูญหายไปในทะเล สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภานุพันธ์วงศ์วรเดชได้ถวายบาตรแก้วสีน้ำเงินไว้ให้) นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม”  เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านทั่วไป มีผู้คนมาทำบุญนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลมกันเรื่อยมา ต่อมาวัดนี้ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีวรวิหาร ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเพชรสมุทรวรวิหาร”


อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) อำเภออัมพวาจังหวัดสมุทรสงครามเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ จนได้รับยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ภายในอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ มีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิถีไทยสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์อาคารทรงไทย 5 หลัง แบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ เช่น

เรือนชาย จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของเด็กผู้ชายไทยในอดีตจะถูกส่งไปศึกษากับพระสงฆ์ตามวัด เมื่อเจริญเติบโตจะได้รับราชการ จัดแสดงเกี่ยวกับการละเล่นสมัยโบราณ “หมากสกา” และเครื่องดนตรีไทย

เรือนกลาง (เรือนประธาน) จัดแสดงออกเป็นห้องต่าง ๆ อาทิห้องพระ ห้องนอน ห้องนวดประคบ และห้องแต่งตัว จำลองถึงวิถีชีวิตของหญิงไทยในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ใช้สิ่งที่ได้จากธรรมชาติมาปรุงเป็นเครื่องสำอางใช้ประทินผิว จัดแสดงศิลปวัตถุสมัยต้นรัตนโกสินทร์ในยุครัชกาลที่ 2 เช่นเครื่องถ้วยเบญจรงค์

เรือนหญิง จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของเด็กหญิงในอดีตที่ศึกษาเล่าเรียนวิชาการบ้านการเรือนและวิชาช่างฝีมืออยู่กับบ้าน เพื่อเตรียมตัวเป็นแม่ศรีเรือนที่ดีในอนาคต

เรือนกลางน้ำ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอัมพวา จัดแสดงวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ เอกลักษณ์ของอัมพวา วัด บ้านการดนตรี อาหารและขนม วัฒนธรรม และประเพณีอัมพวา เป็นต้น

นอกจากนี้มีโรงละครกลางแจ้งและสวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิด อุทยานฯเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท สอบถามข้อมูล โทร. 0 3475 1666, 0 3475 1376 โทรสาร 0 3475 1376

ค่ายบางกุ้ง/โบสถ์ปรกโพธิ์ ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

ค่ายบางกุ้ง อยู่หมู่ที่ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม บริเวณค่ายเป็นแนวกำแพงจำลองสร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์จากการสู้รบ ค่ายแห่งนี้เป็นค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ หลังจากเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อปีพ.ศ.2310 เนื่องจากเมืองแม่กลองเป็นเส้นทางที่กองทัพข้าศึกใช้ในการเดินทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดฯ ให้กองทัพเรือมาอยู่ที่ตำบลบางกุ้ง เรียกว่า ค่ายบางกุ้ง โดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่ายเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เคารพบูชาของทหาร  ภายในบริเวณค่ายมีโบสถ์ที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ชาวบ้านเรียกว่า “โบสถ์หลวงพ่อดำ” มีลักษณะพิเศษคือ โบสถ์ทั้งหลังปกคลุมด้วยต้นไม้ถึงสี่ชนิด คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร ต้นกร่าง ชาวบ้านเรียกว่า “โบสถ์ปรกโพธิ์”และไม่ไกลนักเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


ตลาดน้ำท่าคา ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

ตลาดน้ำท่าคา ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ยังคงความเป็นธรรมชาติของวิถีชีวิตชาวบ้านซึ่งพายเรือนำผลผลิต พืชผักและผลไม้จากสวน เช่น พริก หอม กระเทียม น้ำตาลมะพร้าว ฝรั่ง มะพร้าว ชมพู่ ส้มโอมาขายเฉพาะในวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ (ทุก 5 วัน) และวันเสาร์-อาทิตย์เวลา 08.00–12.00 น. และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 06.00-14.00 น. สามารถติดต่อเช่าเรือพายเที่ยวชมหมู่บ้านและเรือกสวนผลไม้ในบริเวณนั้นได้