!-- AdAsia Headcode -->

ปัญหาค้างคาใจผู้ขับรถหลายต่อหลายคน...เมื่อน้ำท่วม..รถต้องลุยน้ำลึกเครื่องยนต์จะดับไหม...?

21 มิถุนายน 2559, 21:35น.


"น้ำท่วมถนน..รถเราลุยน้ำได้ลึกแค่ไหน?..เครื่องยนต์จะดับไหม?..รถจะพังเสียหายมากแค่ไหน?..ช่วงฤดูฝนต้องเตรียมรถ/เตรียมตัวอย่างไร?"...เหล่านี้ คือปัญหาค้างคาในใจผู้ขับรถหลายต่อหลายคนและอยากได้คำตอบ .ใช่ไหมครับ?




เนื่องจาก คนไทย พวกเราส่วนมากไม่ชอบอ่านอะไรเยิ่นยาว ผมพยายามจะเขียนสั้นๆ เป็น "ข้อเสนอแนะ" ดังนี้นะครับ




1) ถาม: "รถที่เราขับใช้ลุยน้ำได้ลึก(หรือว่า ระดับน้ำสูง)ได้แค่ไหน?"


ตอบ: รถยนต์ไม่ใช่เรือ ไม่สามารถป้องกันน้ำเข้าในตัวรถได้ ..ดังนั้นรถทุกคันในโลกสามารถลุยน้ำได้ลึกหรือว่าสูงระดับดุมล้อรถ โดยเครื่องยนต์ไม่ดับและรถจะเสียหายน้อยที่สุด




 2) ถาม: "เวลาขับรถลุยน้ำ เครื่องยนต์จะดับพังเสียหายเพราะอะไร?"


ตอบ: เครื่องยนต์ดับเพราะ??


- น้ำเข้าในตัวเครื่องยนต์(โดยผ่านไส้กรองอากาศ และ/หรือข้อต่องวงช้างไส้กรองอากาศ เข้าไปทางไอดีสู่ห้องเผาไหม้ในตัวเครื่องยนต์ = เครื่องยนต์สำลักน้ำ อาการเดียวกับที่น้ำเข้าจมูก-ปาก ลงทางเดินหายใจในตัวมนุษย์เรา) 


- ระบบไฟในตัวรถยนต์เปียกน้ำ และ ช้อต และที่เสียหายมากคือ น้ำเข้าท่วมกล่องควบคุม(ECU)เครื่องยนต์ และระบบต่างๆของตัวรถยนต์


- น้ำเข้าก้านวัดระดับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ ..เมื่อน้ำเข้าไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นฯก็จะกลายสภาพเป็นดั่งโคลน ทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เสียหายมาก (รวมทั้งก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์อัตโนมัติ ด้วย)


- น้ำเข้าท่อหายใจของเครื่องยนต์(ท่อไอดี) มีผลทำให้ หัวฉีดเชื้อเพลิง (Fuel Injection) พังทั้งระบบ




 3) ถาม: "น้ำท่วมเข้าท่อไอเสีย..เครื่องยนต์จะดับไหม?"


ตอบ: ไม่ดับครับ แรงดันไอเสียจะเป่าน้ำออก น้ำเข้าได้อย่างมากแค่ท่อพักไอเสีย




4) ถาม: "ถ้าลุยน้ำแล้วเครื่องยนต์ดับ จะทำอย่างไร?"


ตอบ


- พยายามสตาร์ทเครื่องยนต์(เพียงครั้งเดียว)โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งน้ำมันฯ (ป้องกันความเสียหายลุกลาม)


- เข็นเคลื่อนย้ายรถไปบนที่แห้ง ที่สูง พ้นจากน้ำท่วม หรือที่ลาดเอียงได้ยิ่งดี(เพื่อเทน้ำออกจากตัวรถ)


- ยกรถเข้าอู่/ศูนย์บริการ


ดังนี้ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ป้องกันไม่ให้รถเสียหาย/ค่าซ่อมแพงมาก




5) ถาม: "ช่วงฤดูฝน..เตรียมรถ/เตรียมตัวอย่างไร?"


ตอบ


- จัดซื้อ สายลากจูง สายพ่วงแบตเตอรี่ และ ไฟฉาย(พร้อมถ่านไฟ) ติดท้ายรถไว้ เผื่อเป็นเครื่องมือให้คนมาช่วย


- พยายามเติมน้ำมัน "เต็มถัง" ไว้ทุกวัน (เผื่อการจราจรติดขัดเนิ่นนาน)


- ตรวจเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ และชาร์จไฟให้เต็มในวันหยุด (เพราะรถจะใช้ไฟมากขณะฝนตกรถติดขัด เพราะเราเปิดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์หลายอย่างพร้อมกัน เช่น ไฟหน้า ที่ปัดน้ำฝน แอร์ วิทยุ ฯลฯ)


- ซื้อหรือนำอุปกรณ์ที่สามารถถ่ายปัสสาวะในรถได้ ขณะรถติดขัด




6) ถาม: "รถจมน้ำท่วม..ประกันชดใช้ค่าเสียหาย/ค่าซ่อมหรือไม่?"


ตอบ: แล้วแต่ละประเภทกรมธรรม์-การคุ้มครอง ควรตรวจดูเอกสารกรมธรรม์ ครับ




7) ถาม: "ทำไมต้องเอารถเข้าอู่/ศูนย์บริการหลังน้ำท่วมหรือฤดูฝน?"


ตอบ: เพื่อตรวจเช็ค และเปลี่ยนถ่ายของเหลว(น้ำมันต่างๆ)ใหม่เพราะน้ำเข้า (โลหะเมื่อร้อนจะขยายตัว..เมื่อโดนความเย็นจากน้ำจะหดตัวทันที และหดตัวไม่เท่ากัน ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนโลหะกับโลหะ น้ำจึงซึมแทรกเข้าไปได้)




ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก คุณ พีระพงษ์ กลั่นกรอง


สามารถติดตามความข่าวสารและความเคลื่อนไหวของสถานีวิทยุ จส.100 ได้ทาง


    

สามารถดาวน์โหลด JS100 Application ได้ทั้งระบบ IOS และ Andriod ฟรี!!



 



 
X