สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศแจ้งเตือนระดับ 3 ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่พบการระบาด รวมทั้ง ตรวจพบผู้ป่วยในไทยจำนวนหนึ่ง ซึ่งกองทัพบกโดยกรมแพทย์ทหารบกได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรค เน้นให้ความรู้และคำแนะนำกับประชาชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีบัญชาล่าสุดให้หน่วยต่างๆ ของกระทรวงกลาโหม จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่จากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เข้าสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในกระบวนการคัดกรองโรคทุกสนามบินนานาชาติ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งกองทัพบกได้มอบให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก และกรมแพทย์ทหารบก ประสานกระทรวงสาธารณสุขพร้อมบูรณาการร่วมกับกรมแพทย์ของเหล่าทัพ เพื่อสนับสนุนตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคและดูแลประชาชนอย่างดีที่สุดตามนโยบายดังกล่าวโดยทันที
ล่าสุด กรมแพทย์ทหารบกได้ส่งทีมชุดคัดกรองเข้าปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข และกรมแพทย์เหล่าทัพ เพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยว ผู้ที่เดินทางและใช้บริการผ่านเข้า - ออก บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติ จำนวน 10 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย
1. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สนับสนุนการคัดกรอง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง
2. ในส่วน ท่าอากาศยานอื่นๆ มอบให้ โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก ในพื้นที่ดำเนินการ ได้แก่
- ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดย โรงพยาบาลค่ายกาวิละ
- ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย โดย โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช
- ท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดย โรงพยาบาลค่ายเสนาณรงค์
- ท่าอากาศยานอุดรธานี โดย โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม
- ท่าอากาศยานพิษณุโลก โดย โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สำหรับ ท่าอากาศยานสมุย โดยกรมแพทย์ทหารอากาศ, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยกรมแพทย์ทหารเรือ
ทั้งนี้ ชุดคัดกรองจากกรมแพทย์ทหารบก ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เสนารักษ์ ซึ่งจะทำหน้าที่คัดกรอง ตรวจสอบกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้ชุดคัดกรองที่ส่งไปสนับสนุน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ได้เริ่มปฏิบัติงานแล้วเมื่อ ๑๓.๐๐ น. โดย กองทัพบกจะให้การสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ร่วมปฏิบัติงานกับทุกส่วนเพื่อป้องกันและควบคุมไวรัสโคโรนาจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย