มวยเด็ก ‘กระทบสมอง-ไอคิวต่ำ’ บาดเจ็บรุนแรงถึงชีวิต

        จากกรณีนักมวยเด็ก “เพชรมงคล ป.พีณภัทร” อายุ 13 ปี แพ้น็อกหมดสติคาสังเวียนในยกที่ 3 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นำมาสู่ข้อถกเถียงมากมายถึงความเหมาะสมในการจัดการแข่งขัน และความปลอดภัยแก่ตัวเด็ก ซึ่งมีข้อมูลศึกษาวิจัยจาก ศ.พญ.จิรพร เหล่าธรรมทัศน์ เปิดเผยว่า การชกมวยในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะมีผลกระทบต่อสมองโดยตรง ตั้งแต่อาการเลือดออกในสมองจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรง สมองไม่สามารถสั่งการได้ปกติ ความทรงจำลดลงจนนำไปสู่การบกพร่องทางปัญญา หรือภาวะสมองเสื่อม



        โดยระดับสติปัญญา (IQ) ของเด็กที่ชกมวยจะน้อยกว่าของเด็กทั่วไปเกือบ 10 คะแนน และยังลดลงอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาการชก สาเหตุจากสมองถูกสกัดกั้นการเจริญเติบโต ตัวอย่างเช่น ระดับ IQ ของเด็กทั่วไปในประเทศไทยจะอยู่ระหว่าง 90 – 110 ซึ่งระดับนี้สามารถเรียนจบระดับอนุปริญญาหรือปริญญาตรีได้ แต่เด็กที่ชกมวยมากกว่า 5 ปี จะมี IQ 84 ซึ่งคะแนนระหว่าง 80 - 89 จะสามารถเรียนจบระดับมัธยมปลายเท่านั้น



        นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่านักมวยเด็กจะเริ่มฝึกฝนตั้งแต่อายุ 2 – 3 ปี และเริ่มขึ้นชกเมื่ออายุ 6 – 7 ปี เรื่อยไปจนอายุ 15 หากใครฝีมือดีก็จะได้ขึ้นเป็นนักมวยอาชีพต่อไป โดยปัจจุบันมีเด็กที่อยู่ในสังเวียนไม่ต่ำกว่า 200,000 แสน คน ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กจากภาคอีสาน ซึ่งค่าตอบแทนในการขึ้นชกแต่ละครึ่งจะหักให้ค่ายมวยครึ่งหนึ่ง และสำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กตัดสินใจเข้าสู่วงการกีฬามวยมาจากความปัญหาความยากจน ที่ต้องการหาเงินช่วยเหลือครอบครัว รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษา



        ทั้งนี้ประเทศไทยของเราได้มี พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 กำหนดห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ขึ้นชกมวย โดยไม่มีการสวมอุปกรณ์ป้องกันที่ได้มาตรฐาน ต้องมีการลงทะเบียนกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และชกบนเวทีที่ขออนุญาต แต่มักพบการละเมิดกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งขณะนี้กำลังมีการแก้ปัญหานักมวยเด็กด้วยการร่าง พ.ร.บ.กีฬามวย ฉบับใหม่ ที่กำหนดให้มวยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นการแข่งขันที่มีความปลอดภัย มีกติกาห้ามการปะทะที่ศีรษะ เพื่อรักษาวัฒนธรรม และยกระดับให้เป็นที่ยอมรับในวงการกีฬาสากลเพื่อผลักดันมวยไทยสู่กีฬาโอลิมปิกต่อไป

        ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก มหาวิทยาลัยมหิดล