!-- AdAsia Headcode -->

"ประเทศไทยมีอะไรดีบ้าง?" โดย เอนก เหล่าธรรมทัศน์

30 สิงหาคม 2559, 13:10น.


เฟสบุ๊ค Piya Malakul เผยแพร่ข้อความของ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ นักวิชาการและนักการเมืองชื่อดัง ในประเด็น "ประเทศไทยนั้นมีอะไรดีบ้าง ?" ซึ่งสะท้อนแง่มุมต่างๆดังต่อไปนี้


 "ผมได้มีโอกาสอ่านจดหมายของคุณเอนกเหล่าธรรมทัศน์ ในวันนี้จึงอยากเอามาแชร์ให้เพื่อนฝูงมองให้กว้างขึ้น คุณเอนกพูดถึงภูมิศาสตร์ ของประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในเวลานี้. เราจะเป็นผู้นำคนจำนวน หนึ่งของโลก ถ้าจำนวนประชากรรวมของประเทศเราและประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 1.643 ล้านคน รวมตัวกัน เราจะเป็นมหาอำนาจของโลก อำนาจการต่อรอง ในอนาคตจะประสบความสำเร็จ อย่างแน่นอนและยิ่งจะ ยืนนานไปถึงลูกหลาน ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณเอนก เป็นที่สุด"


 Fb เอนก เหล่าธรรมทัศน์ AnekLaothamatas


 ประเทศไทยนั้นมีอะไรดีบ้าง ? คงมีดีหลายอย่างครับ แต่ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในขณะนี้ มีทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน ในเอเชีย และอาจจะในโลกเอาเสียด้วย


 ประการแรก เราเป็นประเทศรวยทะเลรวยมหาสมุทร ประเทศที่เล็กกว่าจีนยี่สิบเท่าแต่มีสองทะเลสองมหาสมุทร คือ แปซิฟิก (อ่าวไทย) และ อินเดีย (อันดามัน) ฝั่งทะเลของเรายาวกว่าของพม่าเสียอีก ยาวแพ้เวียดนามไม่มาก มีจังหวัดที่อยู่ติดทะเลถึง 23 จังหวัด พูดง่าย ๆ ว่า ทุกๆ 4 จังหวัดของไทย ติดทะเลหนึ่งจังหวัด น่าทึ่ง


 ประเทศไทย ขอขยายความ ความจริงเป็นประเทศกึ่งบก-กึ่งทะเลเลย ไม่ใช่เป็นประเทศทางบกที่มีเพียงชายหาดสวยงามเท่านั้น ต้องคิดใหม่ว่าเรามีศักยภาพเป็นชาติอำนาจทางทะเลได้ด้วย หลายประเทศนั้นไม่มีทะเล ต้องรบเพื่อเปิดทางออกทะเล จีนนั้นแม้จะมีมหาสมุทรแปซิฟิก ก็ยังพยายามสุดความสามารถที่จะมุ่งลงใต้ไปลงทะเลที่มหาสมุทรอินเดียให้ได้ 


ใกล้กับภาคใต้ของเราคือ "ช่องแคบมะลักกา" ที่ปัจจุบันนี้ เป็นช่องทางเดินเรือทะเลสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยปริมาณสินค้า น้ำมัน และแก๊ซ ที่ลำเลียงผ่านช่องแคบนี้มีเป็นสามเท่าของที่ผ่านทางคลองสุเอซและคลองปานามา โลกทุกวันนี้มีช่องแคบมะลักกาเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดแล้ว หากดูแผนที่ให้ดีจะเห็นว่ามีจังหวัดหนึ่งของไทยที่ถือเป็น "ปากทางเข้า" ช่องแคบนี้ทีเดียว จังหวัดสตูล ไงครับ ช่องแคบมะลักกานั้นส่วนใหญ่อยู่ระหว่างคาบสมุทรมลายูและเกาะสุมาตรา แต่สตูลนั้นถือเป็นส่วนบนสุดทางขวามือของช่องแคบได้ เราเป็น "เจ้าของ" ช่องแคบมะลักกานิดหน่อย


 ช่องแคบมะลักกานั้นมีความสำคัญต่อจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อาเซียน อินเดีย อ่าวเปอร์เซีย อาหรับ และยุโรปเป็นล้นพ้น มีความจำเป็นที่จะต้องมีทางเลี่ยงหรือทางเบี่ยงที่จะลดความเสี่ยงจากความล่าช้าหรือติดขัดหรือปิดตัวลงของทางเดินเรือในช่องแคบด้วยสาเหตุนานาประการ


 คาบสมุทรภาคใต้ของไทยมีศักยภาพสูงที่จะเป็นทางเบี่ยงหรือทางเลี่ยงนั้น ไม่ว่าจะทำในรูปของคลองกระ (เชื่อมจังหวัดระนอง-ชุมพร) หรือคลองไทย (เชื่อมตรัง-นครศรีธรรมราช) หรือทำเป็น "แลนด์บริดจ์" (เชื่อมสองฝั่งสองมหาสมุทรด้วยรถไฟและทางหลวงขนาดใหญ่)


 


คู่ขนานกันไป จะมีโครงการตัดทางหลวงหรือทำรถไฟความเร็วปานกลาง-สูง ที่จะเชื่อมอินเดีย จีน และอาเซียนภาคพื้นทวีปเข้ากับมาเลเซียสิงคโปร์ สุมาตรา ชะวา ซึ่งโดยทำเลของไทยเป็นเหตุ เส้นทางเหล่านั้นจะต้องผ่านหลายภาคของไทย ผ่านกรุงเทพฯ และผ่านภาคใต้อย่างหลึกเลี่ยงไม่ได้ ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นชาติอำนาจทางลอจิสติกส์ จะเป็นศูนย์กลางของเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมร้อยตลาดจีน อินเดีย และตลาดอาเซียนเข้าด้วยกัน


 จะชอบหรือไม่ จะเต็มใจหรือไม่ ไทยมีทำเลทองที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน เป็นสะพานทองที่เชื่อมจีนและอินเดีย สองยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจโลกนี้เข้ากับเออีซีหรืออาเซียน


 ทำเลของเราจะไม่เอื้อประโยชน์เฉพาะแต่กรุงเทพฯและภาคใต้เท่านั้นครับ ภาคเหนือของไทยจะเชื่อมโยงกับนครและเมืองใหญ่ของจีนตอนใต้ (เชียงรุ้ง คุนหมิง ฉงชิ่ง เฉิงตู) ลาว และที่ขอย้ำเป็นพิเศษคือ พม่า (เนปิดอร์ พุกาม มัณฑะเลย์ ตองอู อังวะ) 


 โปรดทราบนะครับว่า "พม่าแท้ๆ" นั้นใกล้แม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่มาก เนปิดอร์นั้นอยู่ใกล้เกือบชิดแม่ฮ่องสอนข้ามรัฐฉานจากแม่ฮ่องสอนไปนิดที่เดียวก็จะเจอกรุงเนปิดอร์เลย แม้แต่ย่างกุ้งเมืองใหญ่ที่สุดของพม่าก็ใกล้แม่ฮ่องสอน ตาก และ เชียงใหม่มาก 


 ลาวและเวียดนามก็ใกล้เชียงรายและน่านมาก จากเชียงรายบินไปหลวงพระบาง เวียงจันทน์ ใกล้มาก ใช้เวลาเท่าๆ กับบินไปเชียงรุ้งและคุนหมิง และน่านนั้นยังพิเศษสุดที่อยู่ค่อนข้างใกล้ฮานอยด้วย เวลาบินน่าจะไม่ถึงชั่วโมง ครับ


 นานมากแล้วที่เราคิดว่าแม่ฮ่องสอน ตาก และน่านเป็นหลังเขา  เพราะเราเอากรุงเทพฯเป็นศูนย์กลาง แต่ในยุคบูรพาภิวัตน์นั้นในขณะนี้ลาวพม่าล้วนโตเร็วกว่าไทยมาก ลาวโต มากกว่า 7 เปอร์เซนต์ต่อปีมาเป็นทศวรรษแล้ว พม่าเติบโตปีละ 12.5 เปอร์เซนต์มาในช่วงเวลาเดียวกัน ภาคเหนือของไทยมีศักยภาพและพร้อมที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมากตามเพื่อนบ้านได้ โดยเฉพาะหากได้เชือมโยงทางคมนาคมเข้ากับจีนตอนใต้ พม่าทางตอนเหนือที่เป็นพม่าแท้ๆ  ลาว และเวียดนามทางตอนเหนือ


 อีสานของไทยก็จะได้ประโยชน์จากบูรพาภิวัตน์แน่นอน คนไทยมักไม่ทราบว่าภาคที่ใกล้กับประเทศจีนที่สุดโดยการบินนั้นคืออีสานนะครับ ไม่ใช่ภาคเหนืออย่างที่เรามักคิด เนื่องจากนครใหญ่ของจีนนั้นอยู่ทางด้านตะวันออกของประเทศเกือบทั้งหมด จากจีนบินมาไทยจำต้องผ่านอีสานก่อนทั้งสิ้น จะเห็นว่าเกาะไหหลำนั้นใกล้อีสานมาก ถ้าบินจากฮ่องกง มาเก๊า กว่างเจา เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่งหากลงไทยที่หนองคาย บึงกาฬ หรือ อุดร แทนที่จะลงกรุงเทพฯ จะลดเวลาบินลงถึงหนึ่งชั่วโมงได้ 


 ในยุคบูรพาภิวัตน์ ด้วยที่ตั้งประเทศที่เป็นเยี่ยมอย่างนี้ ภาคอีสานและภาคเหนือจะต้องสร้างหรือขยายสนามบินนานาชาติให้ยิ่งใหญ่ไปเลย อย่ามัวทำอะไรเล่น ๆ  สร้างการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพที่อีสานด้วยเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากเวียดนามและจีนมาให้มากขึ้น



อีสานตอนใต้จะได้ประโยชน์มากจากกัมพูชาซึ่งเติบโตปีละ 8.5 เปอร์เซนต์ติดต่อกันมาสิบปีแล้ว เสียมเรียบที่อยู่ใกล้กันคือเมืองท่องเที่ยวระดับโลก พนมเปญคือเมืองใหญ่ที่สุดบนฝั่งแม่น้ำโขงทั้งหมด คนเจ็ดแปดล้านคน เติบโตสูงกว่า 8.5 เปอร์เซนต์ต่อปีแน่ๆ น่าจะโตไม่น้อยกว่าปีละ15-20 เปอร์เซนต์ เท่าที่ประเมินเองอย่างคร่าว ๆ อีสานเป็นภาคที่ยึดโยงกับทั้งลาวและกัมพูชา "โคราช" ของเราคือมหานครที่เชื่อมยึดและโยงใยกับสองประเทศนั้นไปพร้อมๆกันได้เลย


 ภาคตะวันตกจะได้ประโยชน์จากการเชื่อมพม่าส่วนที่เป็นดินแดนมอญและกะเหรี่ยงเป็นหลักเข้ากับไทย และจะเลยไปถึงอินเดียและบังกลาเทศในอนาคตไม่ไกล ส่วนภาคตะวันออกจะเชื่อมชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราดเข้ากับกัมพูชาส่วนที่อยู่ใกล้ทะเลหรืออ่าวไทยครับ


 คงเริ่มสงสัยกันแล้วว่าประเทศไทยเราช่างต่อเชื่อมกับเพื่อนบ้านได้มากมายเหลือเกิน ขอบอกครับ เรามีจังหวัดที่ติดชายแดนถึง 33 จังหวัด พูดง่ายๆ ทุกๆ 2-3 จังหวัดจะมีชายแดนติดต่างประเทศ 1 จังหวัด อลังการมากคร้บ อำนาจหรือศักยภาพในการเชื่อมโยงของเรา หรือ connectivity ที่ชอบพูดกันไงครับ


 ประเทศไทยมีศักยภาพทั้งทางบกและทางทะเล ขอย้ำอีกทีครับ เอาเข้าจริงแล้ว ไม่มีภาคไหนไกลทะเลเลย น่าอัศจรรย์ ถ้าทะเลนั้นเราไม่หมายถึงแต่อ่าวไทย เช่นตากนั้น แม่ฮ่องสอนนั้น ไม่ไกลทะเลอันดามันเลย เพียงมีดินแดนพม่าแคบๆมาคั่นเอาไว้ เท่านั้น ฝนที่ตกที่สองจังหวัดนี้มาจากความชุ่มชื้นที่มาจากทะเล ที่ให้ทั้งภาคใต้ที่ติดอันดามันและให้ทั้งภาคเหนือด้านตะวันตกที่อยู่ไม่ห่างอันดามัน 


 ภาคเหนือด้านตะวันออกก็ไม่ห่างจากทะเลจีนใต้หรือจากอ่าวตังเกี๋ยของเวียดนามเหนือ ภาคอีสานเล่าก็ไม่ไกลจากเกาะไหหลำและจากทะเลเวียดนามและทะเลจีนเท่าไร 


 ในอนาคตสนามบินที่ดีและทางหลวงและทางรถไฟที่ดีจะเชื่อมภาคเหนือและภาคอีสานเข้ากับทะเลของเพื่อนบ้านได้ใกล้ชิดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 


 ด้วยทำเลที่ดียิ่งของเรา  การคมนาคมทางบก ทะเล และอากาศ จะเชื่อมทุกส่วนของไทยไปสู่เพื่อนบ้าน ไปโยงเชื่อมกับจีน อืนเดีย อาเซียน ไปรับประโยชน์จากบูรพาภิวัตน์ได้มากยิ่งขึ้น


 ขออย่างเดียวต้องทำให้เป็น ทำให้รอบด้าน ตั้งใจทำ และจะต้องทำจากความคิดและยุทธศาสตร์ที่รอบคอบและแหลมคม (เห็นด้วยมั้ยครับ)"



 ที่มา : อเนก เหล่าธรรมทัศน์  https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=966113673534298&id=914519875360345



Piya Malakul  https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1683910688598381&id=100009383982523


สามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของสถานีวิทยุ จส.100 ได้ทาง


        

สามารถดาวน์โหลด JS100 Application ได้ทั้งระบบ IOS และ Andriod ฟรี!!

   

X