ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563

          เครื่องบินโดยสารของสายการบินไลอ้อน แอร์ กำลังจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา ฟิลิปปินส์ ไปที่ท่าอากาศยานฮาเนดะ ชานกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น เพื่อนำผู้ป่วยไปรับการรักษาที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เครื่องบินตกและเกิดระเบิดไฟลุกท่วมบริเวณปลายสุดรันเวย์สนามบิน

          นายริชาร์ด กอร์ดอน สมาชิกวุฒิสภา และประธานสภากาชาดฟิลิปปินส์ เปิดเผยทางทวิตเตอร์ว่า เครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก รุ่นเวสต์ วินด์ 24 แบบ 2 เครื่องยนต์ บรรทุกคนบนเครื่อง 8 คน ประกอบด้วยนักบินและลูกเรือ 3 คน แพทย์และพยาบาล 3 คน ผู้ป่วยและญาติรวม 2 คน

          ส่วนนายเอ็ด มอนเรียล ผู้จัดการสนามบินมะนิลา เปิดเผยว่า คนที่อยู่บนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด 8 คน เป็นชาวอเมริกัน 1 คน ชาวแคนาดา 1 คน ส่วนที่เหลือเป็นชาวฟิลิปปินส์ทั้งหมด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด รวมทั้งสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้

ชาวอิตาลีทางภาคใต้ เริ่มขโมยของ ไม่มีเงินจ่าย จากพิษโควิด-19

          สถานการณ์โควิด -19 ทั่วโลก สถาบันจอนห์ ฮอปกิ้นส์ ระบุรายละเอียด

-มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก เมื่อเวลา 05.14น. อยู่ที่ 716,101 คน เสียชีวิต 33,854 ราย

-สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดลำดับที่ 1 อยู่ที่ 137,294 คน เสียชีวิต 2,414 ราย

-อิตาลี อยู่ที่ลำดับที่ 2 มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 97,689 คน เสียชีวิต 10,779 ราย

-จีน มีผู้ติดเชื้อลำดับที่ 3 อยู่ที่ 82,122 คน เสียชีวิต 3,304 ราย  

          อิตาลี เป็นประเทศที่มีผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทำให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ ที่มีขนาดใหญ่สุดอันดับ 3 ของสหภาพยุโรป(อียู) ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. อิตาลีมีมาตรการปิดประเทศเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้ทุกภาคส่วนในประเทศถูกปิดโดยอัตโนมัติ ประชาชนหลายล้านคนขาดรายได้ประจำ รายงานของหนังสือพิมพ์ลา รีปับลิกา ระบุว่า ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งในเมืองปาแลร์โม เมืองเอกของแคว้นซิซิลี ทางภาคใต้ของประเทศ ประชาชนเข้าไปหยิบฉวยอาหารและวิ่งหนีออกจากร้านโดยไม่จ่ายเงิน ประชาชนตะโกนบอกแคชเชียร์ว่า จำเป็นต้องกินอาหาร แต่ไม่มีเงินจ่าย และรายงานของหนังสือพิมพ์กอร์เรียร์ เดลลา เซรา ระบุว่า เกิดเหตุการณ์คล้ายกัน ในอีกหลายเมืองขนาดเล็กของซิซิลี บนเกาะซิซิลี มีประชากรประมาณ 5,000,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว 57 ราย

รัฐมนตรีคลังรัฐเฮสเซินของเยอรมนี เสียชีวิต คาดเครียดจากพิษเศรษฐกิจ

          เมื่อวันอาทิตย์ เยอรมนี ยังได้รับข่าวน่าสลดใจเมื่อนายโทมัส เชเฟอร์ รัฐมนตรีคลังของรัฐเฮสเซิน วัย 54 ปี เป็นหนึ่งในสิบหกรัฐของประเทศเยอรมนี เสียชีวิตใกล้กับรางรถไฟ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต มีรายงานระบุว่า นายเชเฟอร์ เป็นรัฐมนตรีคลังของรัฐนี้มานาน 10 ปี วิตกอย่างมากว่าจะรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจได้อย่างไร ที่ผ่านมา นายเชเฟอร์ ทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อช่วยบริษัทต่างๆ และแรงงานในรัฐนี้ รับมือกับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

ภรรยาผู้นำแคนาดา หายป่วยจากโควิด-19 แล้ว

          นางโซฟี เกรกัวร์-ทรูโด ภรรยาของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา หายป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว นางทรูโด โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กว่า แพทย์ประจำตัวและสำนักงานสาธารณสุขของกรุงออตตาวารับรองว่าหายจากอาการป่วยแล้ว เธอรู้สึกดีขึ้นมากและขอบคุณจากใจไปยังทุกคนที่ส่งความปรารถนาดีมาให้

          นางทรูโด ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม หลังจากที่เดินทางกลับมาจากอังกฤษ นายกรัฐมนตรีทรูโด ก็กักตัวเองเพื่อดูอาการป้องกันไว้ก่อน นางทรูโด กล่าวว่า เธอเชื่อว่า วิทยาศาสตร์และความเห็นอกเห็นใจกัน จะทำให้ผ่านพ้นวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ไปได้ ซึ่งหมายถึงว่า ต้องรับฟังและปฎิบัติตามมาตรการทางด้านสุขภาพและเก็บตัวอยู่กับบ้าน

เกาหลีใต้ ไม่ให้คนต่างชาติที่มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา เข้าประเทศ  

          นายชอง ซเย-คยอง นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ แถลงว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 มี.ค.นี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง พนักงานควบคุมโรคตามท่าอากาศยานทุกแห่งในประเทศ ยกระดับความเข้มงวดของมาตรการตรวจคัดกรอง

-ถ้าพบว่าชาวต่างชาติ มีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จะถูกผลักดันกลับประเทศ

-บุคคลซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศไม่ว่าจะมีต้นทางมาจากแห่งใดก็ตาม ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน รวมถึงชาวเกาหลีใต้ด้วย

-หากบุคคลนั้นไม่มีสถานที่เหมาะสมสำหรับการเฝ้าระวังตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ให้เข้าไปกักตัวในสถานที่ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้จัดเตรียมไว้ แต่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นการยกระดับจากการเฝ้าระวังเฉพาะคนที่เดินทางมาจากสหรัฐฯและทวีปยุโรป

เจ้าหน้าที่ยูเอ็นในเมียนมา ติดเชื้อโควิด-19

          รัฐบาลเมียนมา รายงานจำนวนผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ว่ามีจำนวนอย่างน้อย 8 คน หนึ่งในนั้นเป็นหญิงชาวสวิส อายุ 58 ปี สำนักงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำเมียนมา ออกแถลงการณ์ว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ของยูเอ็นประจำสำนักงานในกรุงเนปิดอว์ เดินทางกลับมาจากสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันที่ 18 มี.ค. หลังจากนั้นราว 1 สัปดาห์เริ่มมีไข้ ไอแห้งและท้องเสีย เธอจึงเดินทางไปยังโรงพยาบาล และผลตรวจยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันผู้ป่วยหญิงชาวสวิสเข้ารับการรักษาและกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ในกรุงเนปิดอว์ 

          ด้านกระทรวงสาธารณสุขของเมียนมา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้กักตัวแม่บ้านและคนขับรถประจำตัวของผู้ติดเชื้อรายนี้แล้ว ส่วนบิดาของผู้ป่วยคนดังกล่าวกำลังรักษาตัวจากโรคโควิด-19 อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน