ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2563

17 มกราคม 2563, 18:57น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2563



นายกฯ คุยเกษตรกรรับมือภัยแล้ง



           พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกรายการ Government Weekly ช่วง PM Talk ทางเพจไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯ ได้พูดคุยกับเกษตรกรจาก จ.ชัยนาท จ.สุพรรณบุรี และเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อรับฟังปัญหาการประกอบอาชีพและการบริหารจัดการน้ำในช่วงที่เกิดปัญหาภัยแล้ง



          โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นทุกปี แต่ในปี 63 สถานการณ์หนักเนื่องจากน้ำต้นทุนน้อยลงไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ห้ามปลูกพืชโน้นนี่ เพราะมีคนบิดเบือนว่านายกฯ ห้ามทำนา แต่เป็นเพราะลม ฟ้า อากาศ และเข้าใจดีว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ จึงไม่ต้องการให้กระดูกสันหลังโค้งงอเพราะเสียหายอีก ขณะเดียวกันทุกคนต้องปรับตัวไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็ไม่สามารถทำอะไรให้ทุกคนพอใจได้หมด นอกจากนี้ที่ผ่านมาการสร้างแก้มลิงก็กระทบพื้นที่ราษฎร จึงต้องระบายออกไปหมดนั่นคือปัญหา โดยการแก้ไขต้องทำแบบยั่งยืนและมีแผนเป็นระยะ แต่เชื่อว่ามันต้องทำได้



          ด้านเกษตรกรจาก จ.ชัยนาท ได้บอกกับนายกฯ ว่า ในช่วงที่ไม่สามารถปลูกข้าวได้ไม่มีรายได้ก็ปลูกผักและเลี้ยงสัตว์แทน และอยากให้ภาครัฐจ้างแรงงานเกษตรกรลอกคูคลองช่วยให้มีรายได้ช่วง 3 - 4 เดือนนี้ นอกจากนั้น ยังนำเสนอรูปแบบแก้ปัญหาข้าวล้นตลาด ซึ่งได้ลงมือปฏิบัติที่ จ.ชัยนาท แล้ว คือ ข้าวที่ปลูกใน จ.ชัยนาท ก็บริโภคด้วยคนชัยนาท ซึ่งนายกฯ กล่าวชื่นชมว่า ดี ผลิตตามความต้องการของคนในพื้นที่ ไม่ล้นออกมาข้างนอก ซึ่งตรงนี้เป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ของรัฐบาล



สทนช.ลงพื้นที่อ.บ้านสร้างจ.ปราจีนบุรี เร่งวางแผนจัดสรรน้ำให้ประชาชนไว้ใช้ช่วงฤดูแล้ง



              การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเค็มในลุ่มแม่น้ำปราจีนบุรี นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมคณะลงพื้นที่หมู่ 9 บ้านโยทะกา ตำบลบางเตย อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อวางแผนหลักการแก้ไขน้ำในลุ่มน้ำปราจีนบุรี-บางปะกงอย่างเป็นระบบทั้งระยะสั้นและระยะยาว การแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำระยะสั้น เน้นน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก และแผนขุดเจาะน้ำบาดาล ให้สามารถนำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ สามารถแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที 



             เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ คาดว่า ฤดูแล้งปีนี้  ปริมาณฝนจะมีน้อยและจะล่าช้ากว่าที่ผ่านมา อาจส่งผลให้ฤดูแล้งยาวนาน จึงขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและช่วยกันประหยัดน้ำเพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดฤดูแล้งนี้ สำหรับ บ้านโยทะกา อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรีเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบประปาน้ำบาดาล ที่ประชาชนสะท้อนปัญหาและความต้องการ นอกจากนี้ สทนช. ยังได้ลงพื้นที่สำรวจเพื่อหากรอบและแนวทางในการพัฒนาแหล่งน้ำให้สามารถแก้ไขปัญหาด้านน้ำในทุกด้านอย่างเป็นระบบ และสอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วย ซึ่งจะเป็นการแก้ไขแบบเบ็ดเสร็จในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน



            ด้าน นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 3 (สระบุรี) กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้จัดสรรงบประมาณในปี 2562 แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสเจอน้ำกร่อยถึงเค็ม จึงต้องเจาะบ่อบาดาล จำนวน 2 บ่อ โดยบ่อแรกที่มีการเจาะน้ำบาดาล พบชั้นน้ำ จำนวน 3 ชั้น โดยชั้นแรกน้ำบาดาลมีคุณภาพน้ำกร่อย ชั้นน้ำที่ 2 น้ำบาดาลมีคุณภาพน้ำจืด และชั้นน้ำที่ 3 น้ำบาดาลมีคุณภาพเป็นน้ำเค็ม จึงมีการอุดกลบเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเค็มชั้นล่างจะเข้ามาปนเปื้อนในชั้นน้ำช่วงที่ 2 ได้



           หลังจากนั้นได้มีการขุดเจาะน้ำบาดาลบ่อในตำแหน่งใหม่เป็นบ่อที่ 2 และมีการพัฒนาน้ำบาดาลในชั้นน้ำที่ 2 ที่ความลึกการพัฒนา 249 เมตร ปริมาณน้ำบาดาลที่สามารถพัฒนาได้คือ 21 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และน้ำบาดาลมีคุณภาพจืด ส่งผลทำให้ชาวบ้านโยทะกา จำนวน 73 ครัวเรือน 210 คน มีระบบประปาน้ำบาดาลใช้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำและมีคุณภาพน้ำที่ดีใช้ในการใช้อุปโภคบริโภค โดยสามารถชดเชยการใช้น้ำผิวดินได้ร้อยละ 50 แต่ความต้องการใช้น้ำของชาวบ้านในพื้นที่อยู่ที่ 42 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ซึ่งการขุดเจาะครั้งนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของหมู่บ้าน ทั้งนี้หน่วยงานในพื้นที่ได้เตรียมแผนการพัฒนาน้ำบาดาลให้มากขึ้นเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพของแหล่งน้ำบาดาล เพื่อพัฒนาและป้องกันการปนเปื้อนระหว่างชั้นน้ำจืดและชั้นน้ำเค็ม อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาลในพื้นที่ให้มีใช้ต่อไป



รมว.มหาดไทย เผยช่วงนี้น้ำประปาอาจมีรสกร่อยบ้าง ขอประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด



           พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการรายงานของการประปานครหลวง จนถึงขณะนี้ค่าความเค็มน้ำประปา เพื่อการอุปโภคบริโภค อาจจะมีเกินค่ามาตรฐาน มีรสกร่อยบ้างบางเวลา ส่วนน้ำที่ใช้เพื่อการเกษตร ยังไม่เกินค่ามาตรฐานความเค็ม 2 กรัมต่อลิตรแน่นอน  ซึ่งการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ได้ทำงาน ควบคุมคุณภาพ ภายใต้การใช้น้ำ เพื่อให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคในหน้าแล้ง ถึงเดือนกรกฎาคมนี้อย่างเต็มที่ พร้อมขอความร่วมมือ ประชาชนที่จะสูบน้ำหรือนำน้ำไปใช้ทางการเกษตร ให้นึกถึงส่วนรวมเนื่องจากขณะนี้ ต้องดูแลและให้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเพียงพอ ต่อความต้องการของประชาชนอย่างทั่วถึงก่อน



กลุ่ม BBS เสนอผลตอบแทนสูงสุด พัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ 3 แสนล้าน



          แหล่งข่าวจากคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เปิดเผยว่า จากการเปิดเอกสารข้อเสนอด้านราคา (ซองที่ 3)ของกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หลังจากเปรียบเทียบราคากับผู้ยื่นข้อเสนออีก 2 รายคือ กลุ่มบีบีเอส และกลุ่ม Grand Consortium แล้ว ปรากฎว่า กลุ่มบีบีเอส เป็นผู้เสนอผลตอบแทนที่สูงสุด ประมาณ 3 แสนล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร เสนอกว่า 1 แสนล้านบาท และกลุ่ม Grand Consortium เป็นลำดับ 3



           หลังจากนี้จะตรวจสอบรายละเอียดของข้อเสนอของกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตร และเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกรับทราบ จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนการเจรจากับกลุ่มบีบีเอสที่เสนอผลตอบแทนสูงสุด หลังจากนั้นจึงจะประกาศผลคัดเลือกได้ในเดือน มี.ค.63



          ทั้งนี้หากเจรจากับกลุ่มบีบีเอสไม่ได้ คณะกรรมการคัดเลือกสามารถเลือกเจรจากับรายที่ 2 คือกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตรได้ ซึ่งได้กำหนดในเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา(TOR) ไว้อยู่แล้ว เพราะเกรงว่าจะเหมือนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่การเจรจาผ่านไปกว่า 6 เดือนและไม่สามารถเจรจากับรายที่ 2 ได้ เพราะเอกชนอาจฟ้องร้องได้



          สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส (BBS Joint Venture) ประกอบไปด้วย บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) บมจ.บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) และบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC)



          ขณะที่กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ได้แก่ บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)) บริษัท บี.กริม.จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) บมจ.ช.การช่าง (CK) และ บริษัท โอเรียนท์ ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด



          ส่วนกลุ่ม Grand Consortium ประกอบไปด้วย บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น(CNT), บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ในกลุ่ม บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) และ GMR Airport Limited จากอินเดีย



หุ้นไทยปิดบวก 4.61 จุด ยืนระดับ 1,600 จุด



           ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,600.48 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 61,064.72 ล้านบาท  ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาสอดคล้องกับตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ผ่อนคลายความเสี่ยงจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน, การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกก็มีสัญญาณการฟื้นตัวอยู่แล้วด้วย



            ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ และหุ้นกลุ่มส่งออกยังได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง หลังสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งด้วย ดัชนีนิกเกอิปิดเพิ่มขึ้น 108.13 จุด แตะที่ 24,041.26 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 173.38 จุด ที่ 29,056.42 จุด



นายกรัฐมนตรี ย้ำไม่ให้ใครนำชื่อตระกูล “จันทร์โอชา” ไปตั้งชื่อสะพาน หรือสถานที่ใดทั้งสิ้น  



           พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ชื่อของตน ตระกูลของตน ไม่เกี่ยวอะไรกับคนอื่น ซึ่งเข้าใจว่าหวังดี และควรนึกถึงความดีที่ทำมากกว่า ไม่ต้องถึงกับมาตั้งชื่อให้ อยู่ที่ว่าวันข้างหน้าคนจะรักเรา ชอบเราอย่างไร และไม่ให้ใครเอาชื่อไปตั้งทั้งนั้น และอีกอย่างไม่ใช่เงินตนเอง เป็นเงินของประชาชน จะเอาชื่อตนไปตั้งทำไม ขออย่าทำให้วุ่นกันไปทุกเรื่อง และเรื่องนี้ก็ไม่ควรชี้แจงถึง 2 รอบ 3 รอบ เพราะโฆษกรัฐบาลได้แถลงข่าวไปแล้ว



            ก่อนหน้านี้ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร ว่า ควรสร้างสะพานจากอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อแก้ปัญหาการจราจร โดยใช้ชื่อสะพาน "จันทร์โอชา"



เลือก "ข้าวหลามหนองมน-หมึกแดดเดียว” เป็นอาหารทางวัฒนธรรม



            นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน “อาหารทางวัฒนธรรม Thailand Cultural Food” ณ อำเภอบางแสน จังหวัดชลบุรี โดยการดำเนินงานในระยะแรกจะเป็นการยกระดับพื้นที่ในเขต 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เพื่อเร่งดำเนินการพัฒนาเมืองและแหล่งท่องเที่ยว โดยนำร่องเลือกอาหารเข้าสู่ทำเนียบอาหารทางวัฒนธรรม 3 ชนิด ได้แก่ 1. ข้าวหลามหนองมน 2. สับปะรด ศรีราชา และ 3. หมึกแดดเดียว เกาะสีชัง โดยการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวผู้ประกอบการอาหารต้องผ่านการประเมินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งมีภาคีเครือข่ายสำคัญมาให้ความรู้ยกระดับผู้ประกอบการ คือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด



          สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ ที่มีความพร้อมสมบูรณ์ โดยเฉพาะวัฒนธรรมด้านอาหาร ที่ต้องการให้เป็น Highlight Signature ควบคู่ไปกับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ



นิชิโนะยอมรับเป็นรองซาอุดิอาระเบีย เน้น 'ช้างศึก' ใช้เกมเร็วต่อกร



          อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี  ยอมรับว่าทีมไทยเป็นรองซาอุดิอาระเบีย  สิ่งสำคัญคือเราต้องพยายามเล่นตามสไตล์ของตัวเอง นั่นก็คือเล่นให้รวดเร็ว เคลื่อนที่ตลอดเวลา นักเตะชุดนี้ ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในเวทีใหญ่ ตัวเองก็ไม่ได้กระตุ้นอะไรเป็นพิเศษ แต่พยายามทำให้บรรยากาศในทีมออกมาดี ให้ทุกคนพยายามทำงานด้วยกัน เพื่อทำให้เราทำผลงานได้ดีขึ้น ซึ่งมันก็จะช่วยดึงศักยภาพของเราออกมา เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถ ซึ่งนอกจากสร้างบรรยากาศแล้ว ก็พยายามบอกให้นักเตะตั้งเป้าหมายให้สูงไว้ก่อน



           สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบ 8 ทีมสุดท้าย พรุ่งนี้ 17.15 น.ทีมชาติไทย พบกับ ซาอุดิอาระเบีย ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ส่วนอีกคู่ ออสเตรเลีบ พบ ซีเรีย เวลา 20.15 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 19 ม.ค. เกาหลีใต้ พบ จอร์แดน เวลา 17.15 น. ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ ยูเออี พบ อุซเบกิสถาน เวลา 20.15 น. สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ข่าวทั้งหมด

X