กรมชลประทาน มั่นใจจัดสรรน้ำเพียงพอ รับมือภัยแล้งภาคตะวันออก

12 ธันวาคม 2562, 15:02น.


          การบริหารจัดการน้ำในภาคตะวันออกช่วงฤดูแล้ง กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำบางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ร่วมประชุมภาคอุตสาหกรรม ประปา เกษตรกรรมและประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำ



          นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักชลประธานที่ 9 เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำ ในพื้นที่ภาคตะวันออก ในปัจจุบัน มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 7 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 859 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 55 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 626 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุ ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 30-50 ของลำน้ำ



          ส่วนแผนบริหารการจัดสรรน้ำในฤดูแล้ง ปี2562/2563 ในภาคตะวันออกครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด รวม 1,540 ล้านลบ.ม.โดยปัจจุบัน มีการจัดสรรน้ำไปแล้วประมาณ 328 ล้านลบ.ม. ยังคงเหลือน้ำอีกกว่า 1,200 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 78 ของ แผนการจัดสรรน้ำ ซึ่งเพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้งนี้  แบ่งออกเป็นด้านอุปโภคบริโภคประมาณ 146 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 9 ของแผนจัดสรรน้ำ ด้านการเกษตรประมาณ 722 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47 ของแผนจัดสรรน้ำ ด้านการรักษาระบบนิเวศประมาณ 271 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 18 ของแผนจัดสรรน้ำ ด้านอุตสาหกรรมประมาณ 173 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ11 ของแผนจัดสรรน้ำ และด้านอื่นๆ ประมาณ 227 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 15 ของแผนจัดสรรน้ำ  



         



           ส่วนมาตรการรองรับวิกฤติขาดแคลนน้ำในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ทุกภาคส่วนได้จับมือกันดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวเช่น บริษัท EAST WARTER ได้เชื่อมท่อจากประแสร์- คลองใหญ่ ไปยัง ประแสร์ -หนองปลาไหล เพื่อลดการสูญเสียน้ำ รวมถึงการจัดหาแหล่งน้ำจากบ่อดินเอกชนเพิ่มเติมโดยสามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้กว่า 20 ล้านลบ.ม.



           ด้านสถาบันน้ำและพลังงานเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ขอความร่วมมือจากการนิคมอุตสาหกรรมลดการใช้น้ำลงร้อยละ 10 การประปาส่วนภูมิภาค ดำเนินการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงเพื่อมาช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่จังหวัดชลบุรีได้กว่า 10 ล้านลบ.ม.





          กรมชลประทานยังได้เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และรถบรรทุกน้ำ เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้งควบคุมการใช้น้ำของภาคเกษตรบริเวณฝายบ้านค่ายประมาณ 13 ล้านลบ.ม. นอกจากนี้ ยังได้สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำ โดยขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย และให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า



           นอกจากนั้น กรมชลประทาน ไม่ได้วางใจเพียงแค่การมีน้ำหรือไม่มีน้ำในช่วงนี้ แต่ยังคงเดินหน้ายุทธศาสตร์น้ำ โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพของอ่างเก็บน้ำ เสริมความจุในการเก็บน้ำให้มากขึ้น การสร้างแหล่งน้ำใหม่ๆเพิ่มเติม และเพิ่มสถานีสูบน้ำซึ่งถือเป็นแผนรองรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ข่าวทั้งหมด

X