ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562

12 ธันวาคม 2562, 05:24น.


ไฟป่าทำให้อินโดฯได้รับผลกระทบทางศก.5,200 ล้านดอลลาร์



           ไฟป่าที่เผาผลาญพื้นที่เป็นบริเวณกว้างในอินโดนีเซีย ธนาคารโลก ระบุว่า สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับอินโดนีเซียคิดเป็นมูลค่าราว 5,200 ล้านดอลลาร์ โดยไม่รวมผลกระทบต่อสุขภาพจากหมอกควันพิษที่ทำให้คุณภาพอากาศย่ำแย่ลง ไฟป่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในอินโดนีเซียแต่ปีนี้มีความรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา เนื่องจาก สภาพอากาศแห้งแล้ง พื้นที่ราว 2.3 ล้านเอเคอร์ หรือ ประมาณ 5.75 ล้านไร่ ส่วนใหญ่อยู่บนเกาะสุมาตราและบอร์เนียว ถูกไฟไหม้โดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทางการอินโดนีเซีย ส่งเจ้าหน้าที่หลายหมื่นคนและเครื่องบินบรรทุกน้ำไปดับไฟป่า ซึ่งเกิดขึ้นจากการเผาเพื่อเคลียร์พื้นที่สำหรับการเพาะปลูกทางการเกษตร



           ธนาคารโลก กล่าวว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียได้รับความเสียหายราว 5,200 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับร้อยละ 0.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี  ความเสียหายที่เกิดขึ้น แบ่งเป็นความเสียหายโดยตรง 157 ล้านดอลลาร์ ความเสียหายทางการเกษตร อุตสาหกรรม การค้า การท่องเที่ยว การคมนาคมขนส่ง และสิ่งแวดล้อม คิดเป็น 5,000 ล้านดอลลาร์ สนามบินหลายสิบแห่งโรงเรียนหลายร้อยแห่งในอินโดนีเซีย และประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ ต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว ในขณะที่ประชาชนกว่า 900,000 คน มีอาการป่วยด้านทางเดินหายใจ



นิวซีแลนด์ ชะลอการค้นหาผู้เสียชีวิต ภูเขาไฟบนเกาะไวท์ปะทุอีกรอบ



           ภูเขาไฟบนเกาะไวท์ของนิวซีแลนด์ เกิดการปะทุรอบใหม่ ทำให้ทางการชะลอการเข้าไปค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย จนถึงขณะนี้มีความเป็นไปได้ที่ภูเขาไฟจะเกิดการปะทุขึ้นอีก ตำรวจนิวซีแลนด์บอกว่าเข้าใจความรู้สึกของครอบครัวผู้เสียชีวิตว่าต้องการจะนำศพกลับไปประกอบพิธี แต่สถานการณ์ในเวลานี้ยังคงเสี่ยงอันตรายเจ้าหน้าที่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นและขณะนี้ยังคงมีแก๊สพิษจากภูเขาไฟปกคลุมไปทั่วบริเวณ แต่ทางการก็ประเมินสถานการณ์ชั่วโมงต่อชั่วโมงหากเห็นว่ามีความปลอดภัยก็จะรีบส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหาผู้สูญหายทันที สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 30 คน ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล  26 คนอาการสาหัส



ไทม์ ยกย่อง สาวน้อยเกรตา ธุนเบิร์ก เป็นบุคคลแห่งปี



            น.ส.เกรตา ธุนเบิร์ก วัย 16 ปี จากสวีเดนได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็นบุคคลแห่งปี 2019 พร้อมตีพิมพ์ภาพของเธอขึ้นหน้าปกโดยเขียนใต้ภาพว่า “พลังแห่งเยาวชน” จากผลงานการเริ่มต้นรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จนกลายเป็นที่สนใจของทั่วโลก จุดเริ่มต้นของการต้องออกจากโรงเรียนและเคลื่อนไหวประท้วงหน้าอาคารรัฐสภาของสวีเดนเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ จากนั้นเธอได้มีโอกาสไปกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมผู้นำโลกในองค์การสหประชาชาติ ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้แสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยังจุดประกายให้ผู้คน 4 ล้านคนทั่วโลกออกมาเดินขบวนประท้วงเรื่องภาวะโลกร้อนเมื่อวันที่ 20 กันยายน ซึ่งเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดด้านสิ่งแวดล้อมในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ



ม็อบทนายความนับร้อยบุกก่อเหตุวุ่นวายในรพ.ที่ปากีสถาน



           นายซัลฟิการ์ ฮามีด หัวหน้าตำรวจเมืองละฮอร์ ประเทศปากีสถาน เปิดเผยว่า เกิดเหตุวุ่นวายเนื่องจากทนายความกว่า 100 คน ยกกำลังบุกเข้าไปในโรงพยาบาลศูนย์หัวใจเมืองละฮอร์ แล้วทำลายกระจกหน้าต่าง ประตู และอุปกรณ์ต่างๆของโรงพยาบาล จุดไฟเผารถยนต์อีกหลายคัน ผู้ประท้วงบางคนยังใช้อาวุธปืนยิง และขว้างก้อนหินใส่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุ มีทนายหลายคนถูกจับกุม



           น.พ.อัชราฟ นิซามิ แพทย์ประจำโรงพยาบาล เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดเหตุวุ่นวายมีคนไข้หญิงวัย 70 ปีเสียชีวิต และอีกหลายคนสูญหาย เพราะผู้ก่อเหตุทำให้แพทย์ พยาบาลและคนไข้ ต้องหลบหนี ทำให้ห้องผู้ป่วยฉุกเฉินและไอซียูไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล



           ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเพื่อระงับเหตุและสลายการชุมนุม พร้อมทั้งนำแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหลบหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย สาเหตุของการประท้วงรุนแรง นายคัมราน อาลี เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมืองละฮอร์เปิดเผยว่า เป็นเพราะทนายความโกรธแค้นที่มีแพทย์หลายคนได้ทำร้ายทนายความคนหนึ่งที่ไม่ยอมเข้าคิวเข้ารับการตรวจ และยังนำคลิปการทำร้ายออกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียอีกด้วย และนายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถานสั่งให้สอบสวนเรื่องนี้แล้ว 



ซูจี ขึ้นศาลโลก ยืนยันเมียนมาไม่มีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา



           นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา กล่าวว่า กรณีที่เมียนมาถูกฟ้องที่ศาลโลก เป็นคดีที่ไม่ครบถ้วนรอบด้าน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ยืนยันว่า เมียนมาไม่ได้มีเจตนาในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา ในรัฐยะไข่ของเมียนมา นางซูจี กล่าวต่อคณะผู้พิพากษาที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือไอซีเจ หรือ ศาลโลก ที่กรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ ในวันแรกของการพิจารณาคดี ยอมรับว่า กองทัพเมียนมาอาจจะใช้กำลังที่ไม่เหมาะสม แต่ไม่ได้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เมียนมากำลังพยายามกวาดล้างชนกลุ่มน้อยให้หมดไป



           นางซูจี เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหาและสู้คดี กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ มีความซับซ้อน สิ่งที่ประเทศแกมเบีย นำเสนอต่อศาลโลกไม่มีความครบถ้วนรอบด้าน ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่



           ประเทศแกมเบีย เป็นประเทศเล็กๆในแอฟริกา ยื่นฟ้องเมียนมาต่อไอซีเจ ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติจากการที่กองทัพเมียนมา ใช้กำลังกวาดล้างเมื่อปี 2017 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคนและชาวโรฮิงญา ราว 740,000 คน ต้องหนีภัยไปอยู่ในบังคลาเทศ โดยระบุว่า การกระทำของเมียนมาเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปี 1948



ชุมนุมประท้วงในชิลีตึงเครียดกว่าเดิม



           สถานการณ์การชุมนุมประท้วงในชิลียังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ ตามถนนสายต่างๆในกรุงซานเตียโก เมืองหลวง ยังคงเกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ประท้วง และในวันสิทธิมนุษยชน ดูเหมือนว่าสถานการณ์การชุมนุมประท้วงทวีความตึงเครียดขึ้นกว่าเดิม ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ยังมีผู้ฉวยโอกาสปล้นสดมภ์ร้านค้าและลอบวางเพลิง



เลือกตั้งอังกฤษ คาดพรรคอนุรักษ์นิยมได้เสียงข้างมาก



           อังกฤษ เปิดคูหาเลือกตั้งวันนี้ เป็นการเลือกตั้งก่อนกำหนด หลังจากเพิ่งเลือกตั้งไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 คูหาเลือกตั้งจะเปิดตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น.ตามเวลามาตรฐานสากล ช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46 ล้านคน เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษ หรือ บีบีซี คาดว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน วัย 55 ปี หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมหรือทอรีเป็นพรรคเดียวที่จะทำให้สหราชอาณาจักร ออกจากสหภาพยุโรป(อียู) หรือเบร็กซิต ตามกำหนด



          ขณะที่ นายเจเรมี คอร์บิน วัย 70 ปี หัวหน้าพรรคแรงงาน จะรณรงค์ให้คนออกมาใช้สิทธิ ส่วนนางโจแอนน์ สวินสัน วัย 39 ปี หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย จะขอให้สนับสนุนผู้สมัครของพรรคเพื่อหยุดยั้งไม่ให้เกิดเบร็กซิต และนางนิโกลา สเตอร์เจียน วัย 49 ปี หัวหน้าพรรคแห่งชาติสกอตหรือเอสเอ็นพี จะทิ้งทวนหลังจากหาเสียงมาตลอด 6 สัปดาห์ 



           ยูกัพ เปิดเผยผลสำรวจว่า พรรคอนุรักษ์นิยม น่าจะได้คะแนนร้อยละ 43 หรือเท่ากับ 339 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 650 เขตหรือที่นั่ง พรรคแรงงานน่าจะได้ร้อยละ 34 หรือเท่ากับ 231 ที่นั่ง พรรคเสรีประชาธิปไตย น่าจะได้ร้อยละ 12 หรือเท่ากับ 15 ที่นั่ง และพรรคเอสเอ็นพีน่าจะได้ 41 ที่นั่ง



 

ข่าวทั้งหมด

X