ศาลยุติธรรม สรุปผลสอบข้อเท็จจริงคดีผู้พิพากษาคณากร ใช้ปืนยิงตัวเองในศาล
หลังการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ครั้งที่ 16/2562 ที่ศาลฎีกา โดยมีนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุม นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ก.ต.มีมติตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ใช้ปืนยิงใส่ตัวเอง หลังพิจารณาคดีเกี่ยวกับความมั่นคงเสร็จสิ้น เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 68 คือเป็นกรณีที่ถูกกล่าวหาหรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย และมีมติให้นายคณากร ไปช่วยทำงานชั่วคราวในกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น มติดังกล่าวมีขึ้นหลังคณะอนุกรรมการตุลาการวิสามัญ ได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ต่อที่ประชุมก.ต.
‘ชิมช้อปใช้ เฟส 3’ รอบผู้สูงอายุ ยังสามารถลงทะเบียนได้
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 3 เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับประชาชนทั่วไปเมื่อวันที่ 14 – 16 พฤศจิกายน 2562 มีผู้ลงทะเบียนครบ 1.5 ล้านรายแล้ว และเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 ที่เป็นการเปิดลงทะเบียนรอบพิเศษสำหรับผู้มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 90,175 ราย ผู้สูงอายุที่สนใจเข้าร่วมมาตรการยังสามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่องทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 - 18.00 น. กระทรวงการคลังจะประเมินความเหมาะสมในการยุติการลงทะเบียนอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สูงอายุที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ครบทุกคน และสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถลงทะเบียนเองได้ ธนาคารกรุงไทยมีบริการอำนวยความสะดวกช่วยลงทะเบียน สามารถติดต่อได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทย
การใช้จ่ายของประชาชนตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน จนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 พบว่า เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังคาดหมาย คือ มีผู้เริ่มใช้สิทธิ์จำนวน 11,738,468 ราย มีการใช้จ่ายรวม 13,117 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายจาก g-Wallet ช่อง 1 จำนวน 11,569 ล้านบาท สำหรับ g-Wallet ช่อง 2 มีผู้เริ่มใช้สิทธิ์จำนวน 117,859 ราย มียอดการใช้จ่ายรวม 1,548 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละประมาณ 13,134 บาท โดยเพิ่มขึ้นวันละกว่า 100 ล้านบาท
มาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 3 ปรับปรุงเงื่อนไข การใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 ให้สะดวกมากขึ้น สามารถใช้จ่ายได้ทุกจังหวัดรวมทั้งจังหวัดตามทะเบียนบ้าน และขยายระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563 ซึ่งรวมถึงผู้ได้รับสิทธิ์เดิมด้วย และการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 จะได้รับเงินคืน โดยไม่ต้องรอจนถึงสิ้นสุดโครงการ ส่วนร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการสามารถสมัครได้ที่กรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2563
รมว.คลัง เร่งเดินหน้ามาตรการต่างๆ กระตุ้นศก.ไตรมาส4
หลังจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2562 ว่าขยายตัวร้อยละ 2.4 ต่อปี ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2 แต่ภาคการส่งออกยังคงได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำปรับตัวลดลง นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำชับให้หน่วยงานของกระทรวงการคลัง ติดตามสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและเร่งดำเนินการขับเคลื่อนชุดมาตรการด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการชิมช้อปใช้เฟส 1- 3 มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ คาดว่า จะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 100,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2562 เพื่อให้มาตรการต่าง ๆ ที่เริ่มไตรมาส 3 สามารถส่งผลได้อย่างเต็มที่ในไตรมาส 4 กระทรวงการคลัง จะประเมินสถานการณ์และแนวโน้มของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องพร้อมที่จะพิจารณาออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจที่เหมาะสมต่อไป
ธปท.เผยหนี้ NPL ของธุรกิจ SMEs เพิ่มขึ้น
นายธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ โดยไตรมาส 3/2562 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.95 เป็นร้อยละ 3.01 ยอดคงค้าง NPL อยู่ที่ 469,500 ล้านบาท โดย NPL ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.52 เป็น 4.75 ธุรกิจขนาดกลางที่มีขนาด 100- 500 ล้านบาท เริ่มได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการกีดกันทางการค้าเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ธปท.ต้องการให้ธนาคารดูแลลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ ช่วยเหลือในภาวะที่ธุรกิจหยุดชะงัก เช่นเดียวกับ NPL สินเชื่อที่อยู่อาศัย รถยนต์ และบัตรเครดิตที่สูงขึ้นต่อเนื่อง จากร้อยละ 2.74 เป็น 2.81 ธปท.ต้องการให้ธนาคารดูแลการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความระมัดระวังไม่ให้กลุ่มเปราะบางเป็นหนี้สินเพิ่ม เพราะมีแนวโน้มที่จะเป็น NPL ในอนาคต
หุ้นไทย ดีดตัวขึ้นปิดบวก–ธนาคารกลางจีน ปรับอัตราดอกเบี้ย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ 1,608.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,907.38 ล้านบาท ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดบวก เนื่องจาก นักลงทุนซื้อสินทรัพย์เสี่ยงคึกคัก หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นฮ่องกง ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ดัชนีนิกเกอิ ปิดบวก 113.44 จุด ปิดที่ระดับ 23,416.76 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดพุ่งสูงขึ้นในวันนี้ เพิ่มขึ้น 354.43 จุด ปิดที่ 26,681.09 จุด ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดทำนิวไฮเมื่อวันศุกร์ รวมทั้งการที่ธนาคารกลางจีน ได้ปรับอัตราดอกเบี้ย reverse repos ประเภทอายุ 7 วัน จากร้อยละ 0.5 มาที่ร้อยละ 2.5 จากเดิมที่ร้อยละ 2.55 นับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา–สสส.รณรงค์ให้คนไทยกินยาให้ถูกโรค
จากผลวิจัยของศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา หรือ กพย.พบว่า คนทั่วโลกเสียชีวิตจากการกินยาที่ไม่ตรงกับอาการป่วยปีละ 10 ล้านคน ในส่วนของประเทศไทย ผศ.ภญ.ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการศูนย์ กพย. เล่าให้ฟังว่า จากผลงานวิจัยพบว่า คนไทยยังมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องว่า เมื่อเป็นหวัด เจ็บคอ จะต้องกินยาต้านแบคทีเรีย หรือยาปฎิชีวนะ เพราะไข้หวัดมากกว่า ร้อยละ 80 เกิดจากเชื้อไวรัส การกินยาต้านแบคทีเรียในจำนวนมาก นอกจากไม่ช่วยให้หายเร็วขึ้นแล้ว ยังจะทำให้เกิดเชื้อดื้อยาเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต วันนี้เลยนำเรื่องนี้มาคุยกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจอย่างถูกต้องในรูปแบบง่ายๆเริ่มต้นจากผู้ป่วย ไม่ควรวิเคราะห์โรคเอง ควรปรึกษาเภสัชกร และแพทย์ เพื่อวินิจฉัยโรคและกินยาให้ตรงตามอาการ
ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. บอกว่า ได้เน้นย้ำให้ประชาชน เช็คให้ชัดก่อนกินยาปฏิชีวนะว่าโรคเกิดจากแบคทีเรียหรือไวรัส เพื่อให้ยาต้านแบคทีเรียที่ตรงกับโรค การรณรงค์อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีของภาคีเครือข่ายที่ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข และ องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย สามารถป้องกันไม่ให้คนกินยาต้านแบคทีเรียที่ไม่ตรงกับโรคได้ถึง 5.7 ล้านคน ประหยัดเงินในการรักษาพยาบาล 250 ล้านบาท ทุกหน่วยงานต้องเดินหน้ารณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
ตร.รวบรวมหลักฐานคดีนักศึกษาแจ้งความถูกมอมยา
กรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) นักศึกษาฝึกงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลลาดกระบัง เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 หลังจากที่เธอโพสต์ข้อความถูกรุ่นพี่ที่รู้จักในที่ทำงานชวนไปกินข้าว จากนั้นมีดาราชื่อย่อ ฟ. ที่รออยู่ร้านอาหารก่อนหน้านี้ ซึ่งดาราคนนี้ได้ยื่นเยลลี่ให้เธอกิน และหลังจากนั้นเจ้าตัวรู้สึกมึนหัว โลกหมุน และมีอาการหัวใจเต้นแรงมาก พ.ต.อ.คำแหง กัณฑวงศ์ ผกก.สน.ลาดกระบัง กล่าวว่า หลังจากผู้เสียหายแจ้งความ ได้ส่งตัวนักศึกษาสาวไปตรวจร่างกายที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการมึนเมาตามที่แจ้งไว้ เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเยลลี่ดังกล่าวที่ทานเข้าไปคืออะไร
พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าให้ปากคำในทุกประเด็นข้อสงสัย ก่อนหน้านี้นักศึกษาสาวได้เข้ามาให้ข้อมูลบางส่วนแล้ว ขณะที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานภาพวงจรปิดมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังคงต้องรอผลนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบคดีด้วย
ด้านฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์ ที่ถูกโยงเป็นดารา ฟ. ชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้อง อาจจะปรึกษาฝ่ายกฏหมายหากมีผลกระทบกับเรื่องการทำงานและทำให้เกิดความเสียหาย ยืนยันไม่ได้วางยาไม่ได้รู้จักกับน้องเป็นการส่วนตัว
กต.ออกแถลงการณ์ แนะนำคนไทย งดเดินทางไปเยือนอิสราเอล-อิหร่าน
...
รัสเซียประสาน อิสราเอล หลังเกิดเหตุโดรนโจมตี อิหร่านวันนี้
...
พบแล้ว! โครงกระดูก สุนัขซาร่า ถูกทิ้งไว้ข้างทาง
...
ข่าวทั้งหมด
