ตม.จับเครือข่ายลักลอบขายรถยนต์ไปลาว พบประวัติโชกโชน

20 ตุลาคม 2562, 16:26น.

          การจับกุมขบวนการลักลอบนำรถยนต์ไปขายตามแนวชายแดน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงจับกุมนายเชษฐ์ และนายบัณฑิตย์ ผู้ต้องหาลักลอบนำรถยนต์ไปขายที่ สปป.ลาว โดยในคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้บริเวณด่านพรมแดนมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ซึ่งนายเชษฐ์ ได้นำรถยนต์โตโยต้า สีบอรนซ์ นครพนม โดยมีนายบัณฑิตย์นั่งเป็นผู้โดยสารมาด้วยและยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครพนมตรวจอนุญาตเดินทางไปสปป.ลาว แต่ปรากฎว่าหนังสือเดินทางรถยนต์เป็นหนังสือเล่มใหม่และโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันเดียวกัน คู่มือการจดทะเบียนรถมีการโอนและต่อทะเบียนในลักษณะที่ผิดสังเกต อีกทั้งภายในรถไม่มีสิ่งของเครื่องใช้ในการเดินทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในระบบสารสนเทศ สตม. พบว่านายเชษฐ์มีประวัติการนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร 2 ครั้ง แต่ได้เดินทางกลับทางเรือโดยสารทางท่าเทียบเรือนครพนม โดยไม่ได้นำรถยนต์กลับมาด้วย จึงได้ประสานกับศุลกากรนครพนมตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่านายเชษฐ์ มีประวัติ เคยนำยานพาหนะออกไปยังสปป.ลาวจำนวน 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันที่ 18 ธันวาคม 2561 และครั้งที่ 2 วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นรถกระบะโตโยต้า นครพนมทั้งคู่ และไม่มีการแจ้งกลับเข้ามาในประเทศไทย
          นายเชษฐ์ ยอมรับว่าได้ถ่ายรถยนต์ดังกล่าวให้กับผู้ซื้อที่สปป.ลาวไปแล้วและครั้งนี้ก็จะนำรถยนต์ไปขายที่สปป.ลาวอีก โดยได้โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้นายบัณฑิตเป็นเจ้าของแทนเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพบ
          ตำรวจตั้งข้อหาลักลอบนำรถยนต์ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายและพยายามลักลอบนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ศุลกากร 2560 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการขยายผลจับกุมเครือข่ายการกระทำผิดในลักษณะเดียวกัน พร้อมตรวจสอบย้อนหลังในระยะเวลา 5 ปีมีรถบางส่วนที่แจ้งเดินทางไปยังสปป.ลาวและยังคงตกค้างอยู่จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จะเฝ้าติดตามจับกุมและยังคงพบการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงนี้ที่คนร้ายอาศัยช่วงจังหวะน้ำลดลักลอบนำรถยนต์ออกจากประเทศทางเรือ เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจสอบบริเวณด่านพรมแดน
          สำหรับขบวนการนี้ส่วนใหญ่คนร้ายจะใช้วิธีการดาวน์ซื้อรถยนต์ และแจ้งรถหายเพื่อเอาเงินประกันจากนั้นก็นำรถคันดังกล่าวส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้เป็นการสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
ข่าวทั้งหมด

X