ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2562

15 ตุลาคม 2562, 07:51น.


สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ คงเป้าจีดีพีโตร้อยละ 3



          แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวในระยะสั้น โดยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3 ในปีนี้ เนื่องจากการกระตุ้นในครึ่งปีหลังบนฐานเดิมที่ต่ำ การเติบโตทั้งภายในและภายนอกยังชะลอตัว และไม่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกร้อยละ 0.25 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.25



จัดมาตรการภาษีดึงโชห่วยขึ้นทะเบียน



          ในการหาแนวทางพัฒนาร้านค้าโชห่วยให้สามารถแข่งขันได้ ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (College of Innovative Business and Accountancy : CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า จากการร่วมหารือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อพัฒนาร้านค้าโชห่วยที่ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานภาครัฐ จำนวนมากกว่า 3 หมื่นร้านค้าทั่วประเทศ พบว่า ร้านที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ มีความกังวลเรื่องภาษี จึงเสนอให้รัฐบาลมีมาตรการลดหย่อนภาษี หรือมาตรการด้านอื่นๆ เพื่อจูงใจร้านค้าเข้าสู่ระบบ และสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้มิเช่นนั้นก็จะหายไปในที่สุด นอกจากนี้ยังได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตกแต่งร้าน และการแจ้งราคาซึ่ง มธบ.จะสรุปผลการศึกษา เพื่อเสนอให้กับกรมการค้าภายใน วางแผนในการดำเนินงานพัฒนาร้านค้าเล็กๆ สู่สมาร์ตโชห่วยในอันดับถัดไป



เริ่มจ่ายเงินช่วยชาวนา



          ในวันนี้ จะเป็นวันแรกของการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี2562/63 รอบที่ 1 งวดที่ 1 ซึ่งนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ได้รับเงินวันนี้คือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับผู้ที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 16 ตุลาคม โดยจะมีการจ่ายชดเชยรายได้ให้กับข้าวเปลือก 2 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ส่วนอีก 3 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ และข้าวเปลือกเหนียว ไม่ชดเชย ถ้าปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด จะได้สิทธิ์ไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิด และเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของข้าวชนิดที่กำหนดไว้สูงสุด



          นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะลงพื้นที่ชี้แจงและมอบนโยบายโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหลักชัย อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา



ปรับ43รพ.ส่งข้อมูลช้าคิดราคายา



          ในวันนี้ กรมการค้าภายในจะประกาศกลุ่ม รพ.เอกชน 3 กลุ่มทางเว็บไซต์ของกรมฯ เพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาในการตัดสินใจ ในการเข้าไปใช้บริการ ซึ่งได้แก่ 1.กลุ่มโรงพยาบาลคิดราคายาไม่แพง หรือแบบอนุเคราะห์ผู้ป่วย หรือกลุ่มสีเขียวมี 214 แห่ง กลุ่มที่ 2.เป็นกลุ่มที่คิดราคายาระดับกลาง หรือกลุ่มสีเหลืองมี 64 แห่ง และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่คิดค่ายาแพงสุดโต่งหรือกลุ่มสีแดงมีจำนวน 73 แห่ง



          นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยด้วยว่า โรงพยาบาลที่อยู่ในกลุ่มสีแดงอาจไม่ประกาศขึ้นเว็บไซต์ เพราะประชาชนสามารถประเมินรายชื่อ รพ.ใน 2 กลุ่มแรกได้ หากไม่มีชื่อแสดงว่าเป็น รพ.ที่อยู่ในกลุ่มสีแดง นอกจากนี้ยังได้ลงนามอนุมัติเปรียบเทียบปรับโรงพยาบาล 43 แห่ง ที่ส่งข้อมูลต้นทุนราคายาค่ารักษาล่าช้ากว่าที่กรมฯได้กำหนดไว้ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม โดยโทษปรับรายวัน วันละไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนใหญ่จะเป็นปรับรายวัน วันละ 100 บาท 500 บาท หรือ  1,000 บาท เนื่องจาก รพ.ส่วนใหญ่ที่เข้ามาชี้แจงอ้างเหตุผล ผิดพลาดทางเทคนิคและหลายรายส่งข้อมูลมาแต่ไม่ครบ



ตร.จับคนร้ายปล้นชายฟินแลนด์



          วันนี้ยังต้องติดตามคืบหน้าคดีที่นายตีโม ไอนาริ ฟาร์ติน (MR.Timo Einari Parinen) สัญชาติฟินแลนด์ถูกกลุ่มคนร้ายทำร้ายร่างกายด้วยการแทงลำคอ เพื่อปล้นทรัพย์เงินสด 250,000 บาท เหตุเกิดใน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 2 คนคือนายยุทธภูมิ ไชยศรีมาลย์ และนายประสิทธิ์ อินทรวิจิตร ในความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยสามารถติดตามนายยุทธภูมิได้แล้ว และติดตามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ได้อีก 2 คน คือ นายสวาทโพชดา ซึ่งได้รับเงินส่วนแบ่งจากการปล้น และนำเงินมาคืนให้กับชุดสืบสวนเพื่อทำบันทึกตรวจยึด อีกคนคือนายปัญญา ไชยศรีมาลย์ ซึ่งเป็นผู้ที่แบ่งเงินจากการปล้น



          พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในบ้านของผู้เสียหายมีคนร้าย 1 คน เข้ามาทางหน้าต่างห้องครัวด้านหลังบ้าน จึงมีการต่อสู้กัน จากนั้นคนร้ายเอาเงินจำนวน 250,000 บาท ของผู้เสียหายหลบหนีไป และได้เห็นว่ามีคนร้ายอีก 2 คน รออยู่ด้านนอกบ้าน จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียหายมีภรรยาเป็นคนไทย ชื่อน.ส.ทัศณีย์ สินโทวงค์ อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาที่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อผู้เสียหายกลับมาบ้านที่เกิดเหตุ แต่เข้าบ้านไม่ได้ เพราะประตูรั้วหน้าบ้านภรรยาใส่กุญแจเอาไว้ มีนางหนูเพื่อนของผู้เสียหายไปตามช่างมาสะเดาะกุญแจประตูรั้ว เมื่อเข้าไปแล้ว ผู้เสียหายเอาเงิน 250,000 บาท วางไว้ในบ้าน หลังจากนั้นก็เกิดเหตุขึ้น



...

ข่าวทั้งหมด

X