ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30น.วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2562

รอฟังนายกฯ ตอบคำถามเรื่อง‘ชิมช้อปใช้ เฟส 2’

          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บันทึกเทปรายการ “Government Weekly” ที่จะเผยแพร่ในเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ต.ค. 2562 ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นเทปที่ 3 แล้ว ครั้งนี้ได้บันทึกเทปที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่เนื้อหารายการสัปดาห์นี้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงของ PM TALK พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบคำถามที่มีประชาชนทางบ้านสอบถามมาเกี่ยวกับ เฟส 2 โครงการ “ชิมช้อปใช้” รวมถึงความคืบหน้าเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย การรณรงค์ให้ประชาชนลดปริมาณบริโภคน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการลดปริมาณการใช้น้ำตาลในผลิตภัณฑ์ และมาตรการแก้จน ซึ่งเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีสั่งการมาโดยตลอด ได้ให้วิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อกำหนดเป็นนโยบาย

ผู้บริโภคกังวลสงครามการค้า ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นร่วงลงต่อเนื่อง

          ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายน 2562 นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 มาอยู่ที่ระดับ 72.2 ซึ่งเป็นดัชนีที่ต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กระทบเศรษฐกิจไทย ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 59.3 โอกาสในการหางานทำลดลงมาอยู่ที่ระดับ 68.5 และรายได้ในอนาคตลดลงมาอยู่ที่ระดับ 88.9 ความเชื่อมั่นด้านต่าง ๆ ที่ลดลงส่งผลทำให้ความเชื่อมั่นไม่ดี ประกอบกับสถานการณ์ราคาพืชผลทางการเกษตรในประเทศยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดลดลง

          ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า การส่งออกของประเทศไทยอาจขยายตัวติดลบร้อยละ 2-3 และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของประเทศอาจขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3 เหลือเพียงร้อยละ 2.6-2.8 และหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่เห็นผลไตรมาส 4 กังวลว่าเศรษฐกิจจะซบเซายาวไปจนถึงปีหน้า มีการประเมินผลจากเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่ายังคงล่าช้าและไม่มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเท่าที่ควร ทั้งเม็ดเงินจากการโอนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการชิมช้อปใช้และการประกันรายได้ที่เม็ดเงินยังไม่เข้าสู่ระบบเท่าที่ควร ประกอบกับสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่มีความเป็นไปได้ว่าการเจรจาจะไม่ประสบความสำเร็จ สหรัฐฯอาจมีการปรับขึ้นภาษีประเทศจีนเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม การประกาศออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรแบบไม่มีเงื่อนไข และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจมีการใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มข้นมากขึ้น

          ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่สวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค มีกระแสข่าวหลายด้านเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจาการค้าทั้งฝั่งลบและบวก ดัชนีหุ้นไทย ปิดตลาดที่1,607.50 จุด ลดลง8.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51,063.70 ล้านบาท ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดบวก 95.60 จุด ปิดที่ระดับ 21,551.98 จุด ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.12 จุด ปิดที่ 25,707.93 จุด

ผู้แทนการค้าจีน กลับประเทศเร็วขึ้น ส่งสัญญาณเจรจาไม่คืบหน้า

          การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน แหล่งข่าวในการเจรจาการค้า ระบุว่า การที่คณะผู้แทนของรัฐบาลจีน นำโดยนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีนและที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลื่อนกำหนดการเดินทางกลับเป็นวันพฤหัสบดีแทนวันศุกร์ ชี้ว่า เป็นการพบหารือที่ไม่มีความคืบหน้า รายงานระบุว่า ฝ่ายจีนปฏิเสธ ประนีประนอม เงื่อนไขการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการของสหรัฐฯ ร้องเรียนมาตลอด ว่าเป็นเงื่อนไขไม่ยุติธรรม เพื่อแลกกับการเปิดสาขาในจีน และรัฐบาลจีน ยอมหารือเพียง 2 ประเด็นเท่านั้น คือการเพิ่มโควตาซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

          มีรายงานว่า นายหลิว เฮ่อ ไม่ได้ โน้มน้าว รัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการชะลอการขึ้นภาษี ซึ่งผิดคาดจากที่ฝ่ายสหรัฐฯ ประเมินไว้ ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศกำหนดการขึ้นภาษีสินค้าจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( ราว 7.57 ล้านล้านบาท ) จากอัตราภาษีเดิมร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 30 ที่มีกำหนดในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ออกไปเป็นวันที่ 15 ต.ค.นี้ เพื่อแสดงมิตรไมตรี หลังจากวันที่ 1 ต.ค. ตรงกับวันชาติจีน และปีนี้เป็นปีที่แผ่นดินใหญ่เฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีการสถาปนาจีนใหม่ ด้วย

          ด้านสหรัฐฯ ยังสงวนท่าทีต่อการที่คณะผู้แทนของรัฐบาลจีน เดินทางกลับก่อนกำหนด ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางข้อพิพาทใหม่กรณีที่ ดารีล มอรีย์ ผู้จัดการทีมบาสเกตบอลฮิวสตัน ร็อกเกตส์ ทวีตข้อความสนับสนุนผู้ประท้วงฮ่องกง แม้ว่าจะขอโทษแล้ว แต่ดูเหมือนสถานการณ์บานปลาย

รัฐมนตรีความมั่นคงอินโดฯ อาการทรงตัวหลังถูกแทง  

          อาการบาดเจ็บของนายวิรันโต รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอินโดนีเซีย วัย 72 ปี ถูกคนร้ายสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ล่าสุด นายเฟอร์มันสยาห์ โฆษกโรงพยาบาลเบอร์กาห์ ที่เมืองปันเดกลาง บนเกาะชวา เปิดเผยว่า นายวิรันโต ถูกแทงด้วยมีด มีบาดแผลลึก 2 แผลที่หน้าท้อง แต่เขายังรู้สึกตัวและอาการทรงตัว เจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน คือ ตำรวจในท้องถิ่นคนหนึ่งและผู้ติดตามของนายวิรันโตอีก 2 คน แต่อาการบาดเจ็บไม่รุนแรง

          ตำรวจอินโดนีเซีย กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่นายวิรันโต ก้าวลงจากรถยนต์ เพื่อทำพิธีเปิดอาคารของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในตำบลซาเกติ ที่เมืองปันเดกลาง คนร้ายลงมือก่อเหตุในช่วงที่หลายคนยืนเข้าแถวเพื่อจับมือทักทายและถ่ายภาพเซลฟี่กับนายวิรันโต เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้าย 2 คน คือนายสยาฮริล อลัมสยาห์ อายุ 31 ปี และนางฟิตรี อันเดียนา อายุ 21 ปี นอกจากนี้ ตำรวจได้ยึดของกลาง คือ ของมีคมที่ใช้เป็นอาวุธ รวมทั้งมีดและกรรไกร เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าคนร้ายชายมีแนวคิดฝักใฝ่กลุ่มไอเอส ส่วนคนร้ายหญิง ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำ

เกาหลีเหนือ อาจทดลองขีปนาวุธข้ามทวีป

          สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีเหนือ รายงานอ้างแถลงการณ์จากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ พูดเป็นนัยว่า ในอนาคตเกาหลีเหนือ อาจจะทดลองขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ICBM เพื่อป้องกันการโจมตีจากขีปนาวุธรุ่น ICBM ของสหรัฐฯ เกาหลีเหนือ อยู่ระหว่างการไตร่ตรองถึงเจตนาของสหรัฐฯว่าสหรัฐฯอาจจะไม่ต้องการให้การเจรจาประสบผลสำเร็จมาตั้งแต่แรก ขณะเดียวกันสหรัฐฯได้โน้มน้าวพันธมิตรของสหรัฐฯในยุโรป เช่นอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมนี วิจารณ์การทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีเหนือ ประณามสมาชิกของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ในคณะมนตรีความมั่นแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ว่ามีพฤติกรรมยั่วยุเกาหลีเหนืออย่างร้ายแรง กรณีเสนอให้ที่ประชุมยูเอ็นเอสซี ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร ประณามเกาหลีเหนือกรณีที่เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ทดลองขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ หรือ SLBM

สังคมออนไลน์ฟิลิปปินส์ วิจารณ์รัฐบาล ไม่เข้าใจปัญหาจราจร

          หลังจากนายซัลวาดอร์ ปาเนโล โฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ของฟิลิปปินส์ เสนอแนะเรื่องแก้ปัญหารถติดในกรุงมะนิลาว่าถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหารถติด ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ควรจะออกจากบ้านให้เร็วขึ้น บีบีซี รายงานว่า สังคมออนไลน์วิจารณ์นายปาเนโลว่าไม่ใส่ใจปัญหาความเดือดร้อนของผู้ใช้รถใช้ถนนในกรุงมะนิลา ขณะที่ หลายคนวิจารณ์ว่าไม่เข้าใจสภาพปัญหาที่แท้จริง เหตุการณ์นี้ทำให้ประธานาธิบดีดูแตร์เต ถูกวิจารณ์ด้วย เนื่องจากเพิ่งสั่งซื้อเครื่องบินลำหนึ่งที่ใช้ในกองทัพสหรัฐฯจำนวน 39.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นเครื่องบินส่วนตัว ขณะที่มีการปรับลดงบประมาณด้านสาธารณสุขและการศึกษา ทั้งนี้ กรุงมะนิลา มีประชากรกว่า 12 ล้านคน เป็นหนึ่งในเมืองที่มีปัญหารถติดมากที่สุดในโลก

CR:รัฐบาลไทย