ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. 24 กรกฎาคม 2562

24 กรกฎาคม 2562, 05:28น.


นายลุคแมน โอตูนูกา นักวิเคราะห์จากบริษัทเอฟเอ็กซ์ทีเอ็ม ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา และนายจอห์น เรท นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอส เปิดเผยว่า การที่นายบอริส จอห์นสัน ชนะการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่และจะเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ในวันนี้ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มตั้งข้อสังเกตว่าแผนของนายจอห์นสันที่จะผลักดันให้สหราชอาณาจักร ถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)หรือ เบร็กซิต ตามกำหนดคือ วันที่ 31 ตุลาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะมีข้อตกลงหรือไร้ข้อตกลง อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจของสหราชอาณาจักร นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าเงินปอนด์อาจจะร่วงมาอยู่ระหว่าง 1.00-1.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าสหราชอาณาจักรถอนตัวจากกลุ่มอียูแบบไร้ข้อตกลง



หัวเว่ย ประกาศจะเลิกจ้างพนักงานในสหรัฐฯ มากกว่า 600 ตำแหน่ง เป็นผลหลังจากการลดการดำเนินธุรกิจ ภายหลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรหัวเว่ยและบริษัทลูก 68 แห่ง พนักงานที่จะถูกเลิกจ้างเป็นลูกจ้างของบริษัทฟิวเจอร์เว่ย เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทด้านการวิจัยและพัฒนาที่มีสำนักงานอยู่ในรัฐเทกซัสของสหรัฐฯ ลูกจ้างที่อยู่ในข่ายเลิกจ้างจะได้รับข้อเสนอตอบแทนการเลิกจ้าง ซึ่งรวมถึงค่าตอบแทนและผลประโยชน์ชดเชย เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย อ้างเหตุผลด้านความมั่นคง เนื่องจากสหรัฐฯ สงสัยว่ามีความเกี่ยวโยงโดยตรงกับทางการจีน มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯห้ามบริษัทสหรัฐฯขายชิ้นส่วนและส่วนประกอบแก่หัวเว่ยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ ด้านหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ เคยให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนืออย่างลับๆ ในการสร้างและบำรุงรักษาเครือข่ายการสื่อสารแบบไร้สายเชิงพาณิชย์ หัวเว่ยเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัท แพนดา อินเตอร์เนชันแนล อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นกิจการของทางการจีน ดำเนินโครงการหลายโครงการในเกาหลีเหนือมานานไม่ต่ำกว่า 8 ปี และอาจเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ ขณะที่โฆษกของหัวเว่ย แถลงว่า บริษัทไม่มีธุรกิจใดๆ ในเกาหลีเหนือ ทำตามกฎหมายและกฎระเบียบทุกๆ อย่างในประเทศต่างๆ และภูมิภาคต่างๆ ซึ่งบริษัทดำเนินงานอยู่



นางจิตา โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ของโลกในปีนี้และปีหน้า ไอเอ็มเอฟ คาดว่า ปีนี้ จีดีพี จะอยู่ที่ร้อยละ 3.2 ลดจากตัวเลขคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนเมษายน คือ ร้อยละ 3.3 คาดว่า เศรษฐกิจปีหน้าจะขยับขึ้นไปที่ร้อยละ 3.5 แต่ก็ยังต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมคือร้อยละ 3.6 ไอเอ็มเอฟ เห็นว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งลดความตึงเครียดทางการค้าและทางเทคโนโลยีและปัญหาภูมิศาสตร์การเมือง กรณีสหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่านในขณะนี้ รายงานแนวโน้มทางเศรษฐกิจของไอเอ็มเอฟ วิจารณ์นโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ พร้อมทั้งแนะนำประเทศต่างๆไม่ให้ใช้วิธีปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้า เพื่อหวังจะแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าหรือใช้วิธีการต่างๆนอกเหนือไปจากการเจรจา เพื่อกดดันประเทศอื่นๆให้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้ตรงกับความประสงค์ของตัวเอง ภาพรวมทั่วโลก ไอเอ็มเอฟ คาดว่า ในปีนี้ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะอยู่ที่ร้อยละ 2.6 และร้อยละ 1.9 ในปีหน้า ขณะที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนจะอยู่ที่ร้อยละ 1.3 ในปีนี้และร้อยละ 1.6 ในปีหน้า สำหรับเศรษฐกิจจีน จะเติบโตที่ร้อยละ 6.2 ในปีนี้และร้อยละ 6.0 ในปีหน้า ส่วนกลุ่มอาเซียน ไอเอ็มเอฟ คาดว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ร้อยละ 5.0 ในปีนี้และร้อยละ 5.1 ในปีหน้า



ข้อพิพาททางการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ทำให้ชาวเกาหลีใต้ ชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงโซล เพื่อคัดค้านคำสั่งของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จำกัดการส่งออกวัสดุไฮเทคไปขายในเกาหลีใต้ ผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นเพิกถอนมาตรการนี้ พร้อมประณามนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และใช้กรรไกรตัดแผ่นป้ายประท้วงที่มีใบหน้าของผู้นำญี่ปุ่น



ความตึงเครียดบริเวณหมู่เกาะพิพาทที่เกาหลีใต้เรียกว่าด๊อกโดและญี่ปุ่นเรียกว่าทาเคชิมะ หลังจากเมื่อวานนี้ เกิดเหตุเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย 2 ลำ ได้บินล่วงล้ำน่านฟ้าเหนือทะเลตะวันออก ใกล้เกาะด็อกโด ซึ่งอยู่ทางตะวันออกสุดของเกาหลีใต้ โดยได้บินล่วงล้ำเข้าไป 2 ครั้ง แต่ละครั้งกินเวลา 3 นาที กองทัพอากาศเกาหลีใต้ จึงได้ส่งเครื่องบินรบขึ้นประกบและยิงเตือน กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงยืนยันว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศรัสเซีย 2 ลำ ซ้อมบินในน่านฟ้าเหนือน่านน้ำสากล ไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าเกาหลีใต้ ตามที่เกาหลีใต้กล่าวหา และเกาหลีใต้ไม่ได้ยิงเตือนตามที่อ้างด้วย  เพราะถ้ายิงจริงคงถูกเครื่องบินรัสเซียยิงกลับแล้ว ด้านนายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยื่นหนังสือประท้วงทั้งเกาหลีใต้และรัสเซีย หลังจากเครื่องบินรบของเกาหลีใต้ยิงเตือนเครื่องบินกองทัพรัสเซียหลายร้อยนัด เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า การกระทำของเกาหลีใต้เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และน่าเสียใจอย่างยิ่ง  นายทาโร โคโน รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า เกาะทาเคชิมะเป็นดินแดนของญี่ปุ่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ควรจะเป็นญี่ปุ่นที่จะตอบโต้ต่อเครื่องบินรัสเซียที่ละเมิดน่านฟ้า



แฟ้มภาพ BBC



 



 

ข่าวทั้งหมด

X