ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2562

17 กรกฎาคม 2562, 08:12น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2562



+++เข้าพรรษา พาทำบุญ ช่วงเช้าวันนี้ ที่วัดศรีบุญเรือง ตำบลศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.มุกดาหาร นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผวจ.มุกดาหาร ประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลทำบุญตักบาตร เนื่องในวันเข้าพรรษา โดยมีชาวแขวงสะหวันนะเขตสปป.ลาว ร่วมงานจำนวนมากโดยในงานมีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายภัตตาหารถวายเทียนพรรษา และถวายผ้าอาบน้ำฝน รักษาศีล และฟังพระธรรมเทศนาตามวัดต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อน้อมรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย สืบทอดประเพณีอันดีงามของชาวพุทธและชำระจิตใจให้ผ่องใสเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ในขณะที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย ก็ได้จัดกิจกรรมน้อมถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาด้วย



+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ การผลักดันมาตรการต่างๆของรัฐบาลชุดที่แล้วให้ดำเนินการต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติมองไทยเป็นฐานการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีเก่า ซึ่งหากปล่อยเช่นนี้ต่อไป สินค้าส่งออกหลักที่ทำรายได้สูงๆ เช่น รถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ฯ จะไม่ใช่สินค้าที่มีมูลค่าสูงอีกต่อไป ส่วนสิ่งที่รัฐบาลต้องการมากที่สุดคือ เรื่องการเพิ่มรายได้ โดยขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ถังแตกอย่างแน่นอน และขอสบายใจได้ว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายขึ้นภาษีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพราะการขึ้นภาษีในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวเท่ากับซ้ำเติมประชาชน



+++นายสมคิด ยอมรับว่า  สถานการณ์ของเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกไม่ค่อยดี โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ระบุว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไทยเติบโต ร้อยละ 2.8 ซึ่งเป็นการขยายตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว โดยส่วนตัวแล้ว ยังมองว่าจีดีพีไตรมาส 2 จะขยายตัวได้ในระดับเดียวกับไตรมาสแรก ประมาณร้อยละ 2.8-2.9 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก (6 เดือน) ขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 3 อย่างแน่นอน



+++กรมศุลกากร ยืนยัน การหิ้วของมาใช้เองไม่ถึง 2 หมื่นบาทไม่เสียภาษี หลังมีคนโพสต์ซื้อชุดอาบน้ำเข้ามาราคา 1,500 บาท แต่เจ้าหน้าที่เก็บภาษี 10,000 บาท ระบุ คนไทยไม่ต้องกลัวหากไม่ได้นำมาขาย ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังไม่มีความมั่นใจ เพราะกฎหมายไม่ระบุปริมาณที่ชัดเจน แต่ให้ใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่กรมศุลฯ เป็นหลัก นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผย ตามประกาศของกรมฯ ผู้โดยสารจะได้รับยกเว้นอากรสำหรับของส่วนตัวเพื่อใช้เองหรือใช้ในวิชาชีพมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท โดยจะต้องไม่เป็นของต้องห้าม อาทิ ยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า หรือเป็นของต้องมีใบอนุญาต (ของต้องกำกัด) อาทิ อาวุธปืน พืช เป็นต้น และไม่มีลักษณะทางการค้า



+++แต่หากผู้โดยสารนำของที่มีมูลค่าเกิน 20,000 บาทหรือเป็นของที่มีลักษณะเชิงพาณิชย์ หรือ สินค้าเพื่อการค้าขาย แม้จะมีมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท ของดังกล่าว ถือเป็นของต้องเสียภาษีอากร ซึ่งผู้โดยสารสามารถมาสำแดงของเพื่อเสียภาษีอากร ที่ช่องตรวจมีของต้องสำแดง (ช่องแดง) และหากของนั้นเป็นของต้องกำกัด ของนั้นต้องได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน และถ้าหากผู้โดยสารเสียภาษีสินค้าแล้วจะต้องได้รับใบเสร็จจากเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ถ้าหากไม่ได้รับใบเสร็จจะถือว่าเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจในทางมิชอบสามารถร้องเรียนได้ ส่วนใครที่ไม่ต้องการจะเสียภาษีนำเข้าสินค้าถ้าหากถูกเรียกเก็บภาษีสามารถยกสินค้าเหล่านั้นให้เป็นของรัฐบาลได้



+++อัตราภาษีอากรนำเข้าจะแตกต่างกันตามชนิดและประเภทสินค้า เช่น กระเป๋า 20% นาฬิกา 5% เครื่องสำอาง 30% เข็มขัด 30% เป็นต้น และสินค้าเหล่านี้จะต้องรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) อีก 7% หากไม่ได้รับความเป็นธรรมร้องเรียน ตามโครงการ “ระฆังศุลกากร”



+++เมื่อตอนเช้าวันนี้ นายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ “ทอม ดันดี” อดีตนักร้องเพลงเพื่อชีวิตและแนวร่วมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งได้รับโทษจำคุกในคดีหมิ่นสถาบันฯ 10 ปี 10 เดือน ได้พ้นโทษและถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแล้วเมื่อช่วงเช้า  หลังได้รับการพระราชทานอภัยโทษเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยลดโทษลงครึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 5 ปี 5 เดือน และขณะนี้จำคุกมานาน 5 ปี 8 วันแล้ว คงเหลือโทษอีกไม่ถึง 5 เดือน ซึ่งไม่เกิน 1 ปี จึงเข้าหลักเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวในวันนี้



+++ทอม ดันดี กล่าวหลังพ้นโทษว่า ขอบคุณเรือนจำ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนพ้องทุกคนที่ให้กำลังใจและร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ขอบคุณอดีต อุปสรรค ปัญหา และความทุกข์ที่ผ่านเข้ามา เพราะถ้าไม่มีความทุกข์ ก็จะหาความสุขไม่เจอ ชีวิตในเรือนจำที่ผ่านมา ก็เปรียบเสมือนอยู่ในโรงเรียนประจำ ได้เรียนรู้อะไรมากมาย และมีศาสนาเข้ามาช่วยยึดเหนี่ยว หลังจากพ้นโทษออกมาแล้วจึงอยากจะไปทำบุญ รวมถึงกลับไปทำงานเพลงที่ค้างคาให้เสร็จ พร้อมกันนี้ทอม ดันดี ยังได้ร่ำไห้ ร้องเพลงระบายความรู้สึกและชีวิตในเรือนจำพร้อมขอฝากบอกสังคมว่า “ประชาธิปไตยจะต้องสร้างขึ้นจากประชาชนทุกคนร่วมใจกัน จะเกิดจากคนคนเดียวไม่ได้ เปรียบเสมือนชายหาดที่ต้องมีเม็ดทรายหลายเม็ด ประชาธิปไตยก็ต้องมีประชาชน”



+++คดีแพรวาเป็นเรื่องร้อน หลังคดีผ่านมาถึง 9 ปี จนศาลฎีกามีคำสั่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ให้ชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ตามศาลชั้นต้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 27 ธ.ค.2553 น.ส.แพรวา ขณะนั้นอายุ 17 ปี ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ชนรถตู้โดยสาร บนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บาดเจ็บอีก 5 ราย ต่อมาคดีอาญาศาลตัดสินจำคุก น.ส.แพรวา 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 4 ปี ทำงานรับใช้สังคม 138 ชม.และห้ามขับรถทุกชนิดจนกว่าจะครบอายุ 25 ปี ส่วนคดีแพ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เรียกค่าเสียหายกับผู้ก่อเหตุและคนเกี่ยวข้องรวม 4 ราย เป็นเงินจำนวน 113 ล้านบาทเศษ กระทั่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562 ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย ให้ครอบครัวเหยื่อรวมทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านบาท แต่จนบัดนี้เวลาผ่านมานานกว่า 2 เดือน ญาติของผู้เสียชีวิตและคนเจ็บ ยังไร้การเยียวยาจากคู่กรณี



+++ปิดท้าย"งดเหล้าเข้าพรรษา" ตัวเรา-ครอบครัว-สังคมได้อะไรบ้าง? จากการเก็บสถิติผลการสำรวจสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในช่วงปี 2544-2560 พบคนไทยมีแนวโน้มการดื่มลดลง จากร้อยละ 32.7 ในปี 2544 เหลือร้อยละ 28.4 ในปี 2560 ผลคือมีคนไทย 15.9 ล้านคนที่ยังคงดื่มอยู่ และจากข้อมูลการสำรวจภาวะสุขภาพอนามัยของประชาชนไทยโดยวิธีการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 ปี 2557 มีผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในระดับอันตรายลดลงเหลือร้อยละ 3.4 ลดจากปี 2547 ที่อยู่ที่ ร้อยละ 9.1 ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มการดื่มของคนไทยโดยรวมลดลง สอดคล้องกับข้อมูลค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ลดลงเหลือ 142,230 ล้านบาท ในปี 2560 จาก 151,607 ล้านบาท ในปี 2548



+++นอกจากนี้ จากการประเมินผลจากการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาต่อการลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากทุกสาเหตุและการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ พบว่าในเดือนที่มีการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากทุกสาเหตุลงร้อยละ 9 และการเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์ลดลง ร้อยละ 25 และยังส่งผลให้การดื่มลดลง ร้อยละ 10 อีกด้วย



+++ส่วนผลด้านสุขภาพ เมื่อดื่มเหล้า เซลล์ตับจะกำจัดสารพิษจากแอลกอฮอล์ทำให้ตับสูญเสียการทำงานเกิดไขมันสะสมในตับ เมื่อได้ออกกำลังกายจะดึงไขมันสะสมไปใช้ทำให้ตับทำงานได้ดีขึ้น ยิ่งดื่มมาก เซลล์ตับยิ่งทำงานหนักและถูกทำลาย สารพิษถูกกำจัดได้น้อยลง เอนไซม์สูงขึ้น กลายเป็นตับอักเสบและไขมันแทรกตับ ทุกครั้งที่ดื่ม เซลล์ยิ่งทำงานหนัก จนเกิดภาวะพังผืดและเป็นแผลในเนื้อเยื่อตับ และเป็นตับแข็งและมะเร็งตับในที่สุด



ดังนั้นช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนถือเป็นโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนแปลงตนเอง  ได้รักษาสุขภาพ - เข้าพรรษาถือเป็นช่วงพักดื่ม พักตับ เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้น และให้ตับฟื้นฟู ซ่อมสร้างตัวเอง สร้างเซลล์ใหม่และกำจัดสารพิษจากร่างกายได้ความรักจากคนรอบข้าง 

ข่าวทั้งหมด

X