*นายกฯ สานต่อการหารือกับกัมพูชาเรื่องการค้า ลงทุน พัฒนาพลังงานและเศรษฐกิจร่วมกัน*

หลังการเดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้เป็นการสานความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในทุกด้าน  โดยนายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ณ.พระบรมมหาราชวังด้วย ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศเห็นด้วยกับการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในจ.ปอยเปตของกัมพูชาและจ.ตราดของประเทศไทย และจะเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มอีก 5 จุด เพื่อสร้างบรรยากาศในการค้าชายแดน และพัฒนาเส้นทางระหว่างประเทศ กัมพูชา แสดงความเป็นห่วงเรื่องแรงงานกัมพูชาในไทย โดยเฉพาะแรงงานประมง ไทยยืนยันว่า พร้อมจะช่วยดูแลและจะจัดการอย่างเป็นระบบ ด้วยการเพิ่มการจดทะเบียนเรือประมงและจะเข้มงวดในการจดทะเบียนแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประเด็นการค้ามนุษย์ที่หลายประเทศแสดงความเป็นห่วงมายังไทย ส่วนการหารือข้อราชการกับกัมพูชา ไม่ได้นำปัญหาความขัดแย้งในอดีตมาเจรจากัน  เนื่องจากเห็นว่าไม่มีประโยชน์และต้องการพัฒนาความร่วมมือมากกว่า เพราะปีหน้าจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว กัมพูชาก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในทุกด้าน เพราะเชื่อว่าจะเป็นผลประโยชน์ที่ดีร่วมกันในอนาคต โดยเฉพาะการร่วมมือในด้านพลังงาน ที่จะตั้งคณะกรรมการร่วมเจรจากันต่อไป นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะนำผลการหารือทั้งหมดในครั้งนี้มาพัฒนาให้เป็นรูปธรรมต่อไป ส่วนการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวของรัฐ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการขออนุมัติการระบายข้าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. ส่วนข้าวที่เสียหาย ยืนยันว่าต้องหาผู้รับผิดชอบขณะที่การแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรีที่มีการเปิดเผยในวันนี้  นายกฯมีหนี้สินอยู่กว่า 300,000 บาท นายกฯระบุว่า อาจมาจากการซื้อกองทุน และยืนยันว่าการเข้ามาทำงานนี้เพื่อประเทศชาติ มิได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง

ธีรวัฒน์