เสี่ยรถเบนซ์จ่ายเงินชดเชยกว่า45ล้านบาท ให้ครอบครัวตร.กองปราบปรามที่เสียชีวิต

23 พฤษภาคม 2562, 18:51น.


นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี พร้อมนายวีรวุฒิ บำรุงใจ ทนายความ และครอบครัวของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล, นางนุชนาถ งามสุวิชชากุล และเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยของทั้ง2ฝ่ายเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พิทักษ์ พูลพุทธา รอง สว.(สอบสวน)สน.ศาลาแดง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต กรณีนายสมชายขับรถชนรองผู้บังคับการกองปราบปรามและภรรยาเสียชีวิต ส่วนลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส



โดยนายวีรวุฒิ กล่าวว่า​ หลังจากเกิดเหตุทางครอบครัวนายสมชาย ยืนยันว่าจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด​ รวมทั้งค่าเลี้ยงดูบุตรสาวทั้ง 2 คน ของผู้เสียชีวิต



ได้ข้อสรุปต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า​  นายสมชาย จะดูแลค่าไร้อุปการะให้กับมารดาของพ.ต.ท.จตุพร เป็นเงิน2.5ล้านบาท​ และให้ทางครอบครัวของนางนุชนาถอีก 2.5 ล้านบาท​ ส่วนนี้ได้ลงบันทึกประจำวันต่อหน้าพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนลูกสาวทั้ง​ 2 คน จะมีการมอบเงินให้อีก จำนวนหนึ่ง โดย น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล​ อายุ 15 ปี และ ด.ญ.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี​ ซึ่งหายเป็นปกติและไปโรงเรียนได้แล้วจะได้คนละ 15 ล้านบาท​ แต่เนื่องจากทั้งคู่เป็นเยาวชนยังไม่บรรลุนิติภาวะ​ ในวันพรุ่งนี้ตนจะต้องมีการยื่นเรื่องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง​ ให้เป็นผู้กำหนดคนดูแลจัดการทรัพย์สินทั้งหมดของเด็กทั้งสองคนจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะและจะโอนเงินให้ทันที​ แล้วกลับมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอีกครั้ง



นายวีรวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้ นายสมชายยังรู้สึกผิด​ ไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยังทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนทุกวัน​ เพราะเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่​ เนื่องจากนายสมชาย ก็มีลูกสาว2คนที่ยังเรียนอยู่เช่นกัน​ ทางนายสมชายก็ดูแลครอบครัวนี้อย่างดีที่สุด​ ดูแลทุกอย่างตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาล ด.ญ.พิญาภา ประมาณ 1.5 ล้าน​ ซื้อรถฟอร์จูนเนอร์ใหม่ป้ายแดงให้ 1 คัน ดูแลเรื่องหนี้สินในบัตรเครดิตให้ทั้งหมด ให้ญาติทั้ง2ฝ่าย 5 ล้านบาท​ ค่าดูแลเด็กอีกคนละ 15 ล้านบาท และอื่นๆอีกรวมแล้วเกือบ​45​ ล้านบาท​ หากลูกสาวทั้ง2คนต้องการจะทำงานที่บริษัทของนายสมชายก็พร้อมที่จะรับเข้าทำงานทันที​ ทุกวันนี้นายสมชายเลิกดื่มเหล้าหันมาดื่มกาแฟ เลิกขับรถ แต่มีคนขับรถ อยากให้เรื่องนี้จบแบบสมบูรณ์และทุกฝ่ายพอใจมากที่สุด



ด้านมารดาของพ.ต.ท.จตุพร กล่าวว่า ลูกชายมีนิสัยชอบให้อภัยคน​ ลูกชายก็ต้องให้อภัยนายสมชายอย่างแน่นอน​ และถ้าขึ้นศาลฯก็จะแถลงต่อศาลว่าไม่ติดใจใดๆให้ด้วย​  ขณะที่ ร.ต.อ.พิทักษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจส่งฟ้องนายสมชายทั้งหมด 5ข้อหาตามเดิม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สั่งฟ้องสาเหตุที่ล่าช้า เพราะเพิ่งสอบด.ญ.พิญาภา แล้วเสร็จ​ ในส่วนของคู่กรณีทั้ง2ฝ่ายจะตกลงและพอใจกันตรงไหนก็ต้องลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าเจ้าพนักงานทุกครั้ง



 



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X