ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.35น.16 พฤษภาคม 2562

นายชื่นชอบ คงอุดม โฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท ชี้แจงจุดยืนทางการเมืองตามที่ นายชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เคยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ส่วนเรื่องที่พรรคพลังท้องถิ่นไท จะโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ยืนยันตามที่ นายชัชวาลย์ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ได้ตอบตกลงและยอมรับว่าได้พูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ ในเรื่องนี้ไว้แล้ว โฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไทย กล่าวว่า นายชัชวาลย์ ย้ำว่า อะไรที่ดีกับประเทศชาติก็ยกมือให้ ไม่จำเป็นต้องมีกลุ่มเพื่อต่อรองใคร การทำให้ประเทศชาติ ไม่ต้องต่อรองใคร เรามีจุดยืนและปณิธานของเราอะไรที่ประเทศไปได้เราทำหมด จะมีหรือไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่สน ไม่จำเป็น อะไรที่ทำให้ประเทศเดินหน้าได้ ก็จะทำ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่ไปพูดกันว่ามีการใช้งบประมาณในการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ถึง 1,300 ล้านบาท เป็นการใช้ในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ต้องหาคนเป็นพันเป็นหมื่นตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด อีกทั้งต้องเช่าสถานที่ แต่ส่วน ส.ว. 194 คน เข้าใจว่าใช้งบประมาณเพียงไม่กี่พันบาทเท่านั้น เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ที่เป็นกรรมการสรรหา ไม่ได้มีเบี้ยประชุม และถ้าจะมีค่าใช้จ่าย ก็เป็นแค่เรื่องเอกสาร กรณีพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว. นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถเปิดเผยได้ และ คสช.คงจะเปิดเผยในไม่ช้านี้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นเมื่อใด โดย คสช.ตั้งใจมาตั้งแต่แรกว่าเมื่อประกาศรายชื่อ ส.ว.เสร็จแล้วก็ต้องเปิดเผย เข้าใจว่าเคยมีการร้องเรื่องนี้ไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินถามมา คสช.ก็เคยส่งคำสั่งสำเนาแต่งตั้งไปให้ ส่วนเรื่องที่มีการวิจารณ์ว่าคณะกรรมการสรรหาส.ว.บางคนมาเป็นส.ว.เอง นายวิษณุ ชี้แจงว่าในระหว่างเวลาพิจารณา จะไม่มีการพิจารณาตัวเอง ถ้าไม่เดินออกจากที่ประชุมก็ไม่ออกความเห็น ซึ่งได้ทำแบบนี้ และได้เตือนในเรื่องนี้ไปแล้ว จึงไม่คิดว่าเป็นปัญหาอะไร มีการจดรายงานการประชุมไว้ แต่จะเผยแพร่ได้หรือไม่ ตนไม่ทราบ หากมีคดีความ ก็สามารถส่งรายงานการประชุมได้ ไม่ได้ลำบากอะไร

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า มีการปรับประมาณการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2562 เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาลง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี คาดว่าจะอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 3.3-3.7 โดยจีดีพี เมื่อปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 4.1 ทั้งนี้ จีดีพีเมื่อช่วง 2 ไตรมาสล่าสุดเริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัว โดยการเปลี่ยนแปลงสำคัญในช่วงไตรมาส 4/2561 ต่อเนื่องมาถึง 4 เดือนแรกของปี 2562 คือ การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในอัตราที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีการลงทุนภาคเอกชนเริ่มชะลอตัวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นต้นมา ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณเริ่มดีขึ้นไตรมาส 2/2562 แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายของการเบิกจ่าย การส่งออกสินค้าหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มหดตัวตามภาวะการส่งออก การนำเข้าสินค้าหดตัวตามภาวะการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนและภาคการท่องเที่ยวอยู่ในภาวะชะลอตัวตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 เป็นต้นมา

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ตอบโต้คำกล่าวของนายไครอน สกินเนอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในที่ประชุมความมั่นคงว่า จีนเป็นคู่แข่งมหาอำนาจรายแรกของสหรัฐฯที่ไม่ใช่ชนผิวขาว และเห็นว่าสหรัฐฯกับจีนกำลังมีการต่อสู้ระหว่างอารยธรรมและอุดมการณ์ที่มีความแตกต่างกัน ประธานาธิบดีสี กล่าวว่า การคิดว่าชาติพันธุ์และวัฒนธรรมของตนเองยิ่งใหญ่ และความพยายามเข้าไปเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมผู้อื่นเป็นเรื่องโง่เขลา คำกล่าวของประธานาธิบดีสี เกิดขึ้นท่ามกลางแนวโน้มของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่แย่ลง ซึ่งเขายังเรียกร้องให้ชาติเอเชียมีความร่วมมือเพื่อส่งเสริมความมั่นใจทางวัฒนธรรม

ทำเนียบขาวสหรัฐฯ แจ้งว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯจะไปพบกับประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ที่กรุงโซลในเดือนหน้า เพื่อหารือเรื่องหาทางเกลี้ยกล่อมให้เกาหลีเหนือ ยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีมุน จะเดินหน้าประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อบรรลุเรื่องการปลดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ  ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะไปเกาหลีใต้ ระหว่างไปร่วมการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือจี 20 (G20) ที่นครโอซากาของญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายน ประธานาธิบดีมุน เป็นคนกลางทำให้เกิดการประชุมสุดยอด หรือ ซัมมิต ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีคิม ครั้งแรกที่สิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน และพยายามประคองกระบวนการนี้เอาไว้หลังซัมมิตครั้งที่สองล่ม แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ เกาหลีเหนือ ทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้สองครั้ง หลังจากหยุดไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 อีกทั้งยังขู่ว่าจะเปลี่ยนแนวทางหากสหรัฐฯไม่เปลี่ยนจุดยืนเรื่องคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ภายในสิ้นปีนี้

แฟ้มภาพ