อดีตรองประธานสนช.ชี้แจงเรื่องการโหวตเลือกนายกฯ ของส.ว.

การรายงานตัวของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ที่อาคารสุขประพฤติ ในช่วงบ่าย มีหลายคนเดินทางมารายงานตัว เช่น นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, นายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต., พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยระบุสั้นๆว่า เข้ามารายงานตัวเท่านั้น

ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เปิดเผยว่า จะรับชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ไว้พิจารณาหากมีการเสนอมาจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ให้เป็นนายกรัฐมนตรี มองว่า บุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไป ต้องเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้และต้องเข้ามาสานงานปฏิรูปประเทศที่ค้างไว้ต่อได้ ส่วนตัวขอทุกฝ่ายคำนึงถึงการพัฒนาประเทศให้มากไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล พร้อมชี้แจงกรณีที่ส.ว.มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีว่ามาจากคำถามพ่วงในการทำประชามติที่ผ่านการเห็นชอบจากประชาชนแล้ว ขอให้เข้าใจสว.ไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่แค่ร่วมโหวตตามกฎหมายเท่านั้น ถ้าที่ประชุมส.ส.ตกลงกันได้ก็คงไม่มีปัญหา ดังนั้นส.ว.จึงไม่มีบทบาทหลักในการเลือกนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่าทุกคนมีอิสระในการโหวต ซึ่งจะต้องฟังเสียงประชาชนด้วย

นายสุรชัย ระบุว่า ตัวเองจะได้เป็นรองประธานส.ว.หรือไม่ให้ที่ประชุมส.ว.พิจารณา และรับฟังทุกความเห็นของสังคมหลังมีการวิจารณ์ว่ามีสมาชิกสนช.เข้ามาเป็นส.ว.จำนวนมาก ซึ่งจะขอใช้การทำงานเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าส.ว.ได้เข้ามาพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง พร้อมคาดว่าห้องประชุมส.ว.ที่รัฐสภาใหม่จะแล้วเสร็จในเดือนหน้านี้

ส่วนนายนิพนธ์ นาคสมภพ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวไทย เป็นอีกคนที่ได้มารายงานตัวแล้วและระบุว่า ตั้งใจเข้ามาปฏิรูปสื่อเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อถือและให้เป็นโรงเรียนของประชาชนอย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร