รองผบ.ตร.ลงพื้นที่ จ.ยะลา วางมาตรการดูแลความปลอดภัย3จ.ชายแดนใต้ รับเลือกตั้ง

ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ สส. ในวันที่ 24 มีนาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ได้ลงพื้นที่ กองกำลังจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา เพื่อประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการเตรียมความพร้อมและกำชับการปฏิบัติหน้าที่ โดยจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่เกือบ24,000นายดูแลรักษาความปลอดภัยเฝ้าระวังทุกพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยอมรับว่า เป็นห่วงทุกพื้นที่ แต่ได้กำชับให้ตำรวจทุกนายและหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ เฝ้าระวังทุกพื้นที่รวมถึงเขตรอยต่อของจังหวัดใกล้เคียงด้วย เช่น สงขลา พัทลุง สตูล พร้อมเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งของตนเอง เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้

ด้านพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปแล้ว จากปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่นำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างประกอบระเบิดได้ แต่ยังไม่พบรถจักรยานยนต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหารถของกลาง โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยตรวจรถจักรยานยนต์พ่วงข้างทุกคัน เพื่อป้องกันการนำมาก่อเหตุซ้ำ ส่วนการขนบัตรเลือกตั้งในพื้นที่เส้นทางเสี่ยง ได้ประสานทหารเข้ามาช่วย และหากเป็นพื้นที่ห่างไกล จะใช้วิธีการขนบัตรเลือกตั้งด้วยเฮลิคอปเตอร์ นอกจากนี้ยังมีชุดเคลื่อนที่เร็วในการดูแล หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย

ส่วนกรณีที่มีพรรคการเมืองหนึ่งขึ้นเวทีปราศรัยระบุว่า หากพรรคการเมืองคู่แข่งได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนออกมารวมตัวกันที่ถ.ราชดำเนินนั้น ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการเลือกตั้ง กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวหากเป็นการปราศรัยในเชิงบังคับ ขู่เข็ญใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จจะมีความผิดตามมาตรา 73 กฎหมายการเลือกตั้ง มีโทษจำคุกตั้งแต่1-10ปี  ปรับตั้งแต่20,000-200,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น20ปี ซึ่งกรณีนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน หากพบว่าเข้าข่ายความผิด ก็สามารถตั้งคณะสอบสวนได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้มีผู้มาร้องเรียน

ต่อจากนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางไปโรงพยาบาลยะลา สิริรัตนรักษ์ เพื่อเยี่ยม2นายตำรวจที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่อำเภอหนองจิก เมื่อวันที่17มกราคม เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ โดยตำรวจ2นายนี้ยืนยันว่าจะยังคงปฏิบัติหน้าที่และตนเองจะสู้เพื่อประเทศชาติต่อไป