การตรวจจับรถควันดำ ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยของการเกิดฝุ่นละออง วันนี้กรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย ตำรวจจราจร กองกำกับการ5 กองบังคับการตำรวจจราจร ลงพื้นที่บริเวณ ด่านตรวจมลภาวะ ถนนลาดกระบัง เพื่อตรวจรถยนต์ รถบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะไม่ประจำทาง ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่อาจมีควันดำและนำมาใช้บนท้องถน โดยถนนลาดกระบังนี้เป็นเส้นทางที่มีรถบรรทุกและรถขนส่งประเภทต่างๆสัญจรไปมาจำนวนมาก นายสมชัย รากแก้ว หัวหน้าฝ่ายตรวจการ กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทาง เปิดเผยว่า วันนี้กรมการขนส่งทางบกร่วมกับตำรวจจราจรตั้งด่านตรวจวัดควันดำทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวม 13 จุด
จากการตั้งด่านตรวจค่าควันดำในกลุ่มรถที่จดทะเบียนไว้กับกรมขนส่งทางบก (รถป้ายเหลือง) ที่ลาดกระบังนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าพบรถโดยสารไม่ประจำทาง ควันดำเกินค่ามาตรฐาน ร้อยละ 45 ขึ้นไป จำนวน 1 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการพ่นสีสัญลักษณ์ห้ามนำรถออกมาใช้บนตัวรถ พร้อมเปรียบเทียบปรับตั้งแต่ 5,000 -10,000บาท หลังจากนี้เจ้าของรถ จะต้องนำรถกลับไปดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง และนำไปตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งทางบก ทั้งนี้หากผู้ขับขี่ลบสัญลักษณ์ดังกล่าวออกเอง จะถือว่ามีความผิดฝ่าฝืนคำสั่งผู้ตรวจการ จะมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคล(รถป้ายขาว)ที่ควันดำเกินค่ามาตรฐาน ตรวจพบ จำนวน 10 คัน โดยตำรวจจราจรได้เปรียบเทียบปรับจำนวน 1,000บาท และสั่งให้กลับไปดำเนินแก้ไข
ส่วนที่มีกระแสว่า การตรวจวัดควันดันที่ด่านตรวจกับโรงตรวจสภาพรถในกรมการขนส่งทางบก มีมาตรฐานไม่เท่ากัน นายสมชัย ยืนยันว่า ทั้ง2แห่งใช้มาตรฐานเดียวกัน แต่ที่รถบางคันตรวจค่าควันดำไม่เท่ากันนั้น เนื่องจากค่าสันดาปและน้ำหนักการบรรทุกระหว่างวิ่งกับการจอดรถอยู่กับที่ไม่เท่ากันเป็นปัจจัยทำให้ค่าควันดำไม่เท่ากัน สำหรับเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำ หากตรวจพบร้อยละ30 จะเป็นการตักเตือน แต่หากเกินร้อยละ45 ถือว่าผิดกฎหมายที่กำหนดไว้