ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.35น.วันที่ 17 มกราคม 2562

+++นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยสรุปรายงานการปฏิบัติงานหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ต่อสู้ภัยฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่า วันนี้ไม่ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากดัชนีการยกตัวของเมฆไม่เหมาะสม เหมือนกับวานนี้ โดยทั้งช่วงเช้าและบ่าย ใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ ไม่พบกลุ่มเมฆ เรียกว่า "ฟ้าหลัว" เพราะหวังว่าถ้ามีเมฆอยู่ จะไปดำเนินการขั้นตอนที่ 2 เลี้ยงเมฆให้อ้วน ไหลลอยไปตกในกรุงเทพฯ จากการวัดสภาพอากาศ เวลา 11.00 น.ความชื้นเกินร้อยละ 60 แต่ค่าดัชนีการยกตัวของเมฆยังไม่ดี ซึ่งเมื่อวานนี้ ตัดสินใจสร้างแกนเมฆไป ไม่ประสบความสำเร็จ ในการสร้างเมฆแนวตั้ง เพราะความกดอากาศสูงจากจีนมาเป็นอุปสรรค ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ค่ายกตัวดัชนีอากาศยังไม่ดี จึงตัดสินใจว่าไม่ปฏิบัติการฝนหลวง และพรุ่งนี้ จะขึ้นตรวจวัดสภาพอากาศมาวิเคราะห์ในการวางแผนปฏิบัติการต่อไป

+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า เนื่องจากจำนวนอุบัติเหตุเกิดมากขึ้น โดยสาเหตุ คือ การไม่เคารพระเบียบวินัย และไม่กลัวโทษ จึงจำเป็นต้องสร้างและควบคุมวินัยจราจรให้มีความสากล และสอดรับกับเทคโนโลยี อีกทั้งกฎหมายเก่าใช้บังคับนานแล้ว ไม่ทันสมัย ไม่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน จึงต้องแก้ไขให้สอดคล้อง มีความสากล เช่นเดียวกับนานาประเทศ

+++ในร่างกฎหมายนี้มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมการขนส่งทางบก ประสานจัดทำข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ บันทึกประวัติของผู้ขับขี่และการทำผิดกฎหมาย รวมทั้งข้อมูลทะเบียนรถ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมดูแล และบันทึกคะแนนความประพฤติ หากผู้ใดถูกตัดจนหมด ต้องถูกพักใบขับขี่ 90 วัน และเข้าอบรมวินัยจราจรกับกรมการขนส่งทางบก และรองรับการใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต

+++สมาชิก สนช.ยังตั้งข้อสังเกตว่าร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนว่าหากมีการบังคับใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์แล้วยังต้องพกใบขับขี่เดิมอีกหรือไม่ จึงเสนอให้มีการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการให้ชัดเจน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ลงมติด้วยคะแนนเอกฉันท์ งดออกเสียง 2 เสียง เห็นชอบร่างกฎหมายจราจรทางบกในวาระแรก

+++ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รับทราบแผนงานในปี 2562 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และได้สั่งให้บอร์ด ขสมก. คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ทบทวนแผนปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์สาธารณะของ ขสมก.  1 - 2 บาท มีผลวันที่ 21 มกราคมนี้

+++นายอาคม กล่าวว่า เมื่อ คนร.ที่กำกับนโยบายมีแนวทางให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสาร ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตาม โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางมีการประชุมวาระพิเศษอีกครั้ง เพื่อมีมติชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารออกไป

+++คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง อนุมัติรถ ขสมก. รถร่วม ขสมก. ปรับขึ้นราคาเฉลี่ย 1-2 บาท ขณะที่ รถ บขส. และรถร่วม บขส.ให้ปรับขึ้นร้อยละ 10  มีผล 21 ม.ค.นี้

+++รถโดยสารธรรมดา (รถเมล์ร้อน) ปรับขึ้น 1.50 บาท เป็น 8 บาท จากปัจจุบันเก็บราคา  6.50 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 2562-20 ม.ค. 2563 หลังจากนั้นจะปรับขึ้นอีก 2 บาท เพิ่มเป็น 10 บาท  คนร. จึงต้องการให้พิจารณาเรื่องนี้ให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารได้รับความเดือดร้อน

+++ขณะที่ การประชุมคณะกรรมการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก.มีมติตาม คนร. ให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารออกไปก่อน

+++นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (สมาคมรถร่วมฯ) เปิดเผยว่า รถร่วมได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ทั้งการประชาสัมพันธ์ให้และพิมพ์ราคาตั๋วโดยสารใหม่

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,580.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,844.35 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ขานรับความเชื่อมั่นที่มีมากขึ้น หลังจากที่เงินต่างชาติไหลเข้ามา 5 วันติดต่อกัน และการเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณ 24 มี.ค.เหมาะสมจัดการเลือกตั้ง ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาหนุนตลาดฯมากขึ้น

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง ลดลง 146.47 จุด ปิดที่ 26,755.63 จุด ขณะที่ ตลาดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 40.48 จุด ปิดที่ 20,402.27 จุด เนื่องจากแรงซื้อที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ถูกสกัดด้วยปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า ทางการสหรัฐฯกำลังสอบสวนคดีอาญาต่อบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ฐานขโมยความลับทางการค้า

+++มีรายงานว่า รัฐบาลเวียดนาม กำลังเตรียมการต้อนรับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่จะมาเยือนอย่างเป็นทางการหลังตรุษจีนในต้นเดือนหน้า ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเวียดนามจะได้เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ครั้งที่สองระหว่างนายคิมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เวียดนามน่าจะได้เป็นสถานที่จัดซัมมิตครั้งที่สองของผู้นำเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯมากที่สุด เพราะมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งสองประเทศ

+++นักวิเคราะห์มองว่า กรุงฮานอย ทางตอนเหนือของเวียดนามและเมืองดานัง ทางตอนกลางของเวียดนามน่าจะได้เป็นเจ้าภาพซัมมิตครั้งนี้

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นางซาราห์ สปินด์เลอร์ แม่ของผู้เสียชีวิตคือ นายเจสัน สปินด์เลอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ และเว็บไซต์ของบริษัทไอ-ดีอีวี อินเตอร์เนชันแนล บริษัทที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และการลงทุนให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในเคนยา ซึ่งผู้เสียชีวิตก่อตั้งขึ้นและดำรงตำแหน่งซีอีโอ เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของเคนยาว่า นายสปินด์เลอร์ วัย 41 ปี ซึ่งรอดตายจากเหตุกลุ่มอัลกออิดะห์จี้เครื่องบินโดยสารขับพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์ค สหรัฐฯเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 เพิ่งจะเสียชีวิตจากเหตุกลุ่มติดอาวุธอัล-ชาบับ ของโซมาเลีย โจมตีโรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบีในเขตเวสต์แลนด์ส กรุงไนโรบี เคนยา เมื่อบ่ายวันอังคาร มีคนเสียชีวิต รวมทั้งหมด 21 ศพ

+++ด้านประธานาธิบดี อูฮูรู เคนยัตตา ของเคนยา แถลงก่อนหน้านี้ว่า คนร้าย 4 คน มีอาวุธทั้งปืนและระเบิด บุกโจมตีโรงแรมเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันอังคาร และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเคนยา ใช้เวลาปฏิบัติการหลายชั่วโมงก่อนที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดเมื่อเช้าวันพุธ พร้อมกับวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายทั้งหมด สำหรับอาคารดังกล่าวเป็นที่ตั้งโรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบี ร้านค้าและสำนักงานอีกหลายแห่ง

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายแอนดรูว์ สแตมเพอร์ สารวัตรฝ่ายสืบสวนของสำนักงานตำรวจในรัฐวิคทอเรีย ออสเตรเลีย เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ไนน์นิวส์ว่า น.ส.ไอยา มาซาร์เว วัย 21 ปี นักศึกษาชาวอิสราเอลในโครงการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยลา โทรบ ในเมืองเมลเบิร์น ถูกคนร้ายฆ่าเสียชีวิตบริเวณป่าละเมาะแห่งหนึ่งของเมืองบันดูรา ชานเมืองเมลเบิร์น เมื่อเช้ามืดวานนี้ แม้ว่าจะเป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับโดยนิตยสารอีโคโนมิกของอังกฤษในปี 2560 ให้เป็นหนึ่งใน 5 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก

+++เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า น.ส.มาซาร์เว เสียชีวิตอยู่ในสภาพเปลือยกายบางส่วนและมีบาดแผลถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ตำรวจ เชื่อว่า เสื้อทีเชิร์ต 1 ตัวและหมวกแก๊ป 1 ใบ ที่ตำรวจพบตกอยู่บริเวณป่าละเมาะ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร อาจจะเป็นของคนร้าย และเป็นหลักฐานสำคัญที่อาจจะนำไปสู่การสืบหาคนร้าย นอกจากนี้ ตำรวจได้เผยแพร่ภาพจากกล้องซีซีทีวี บริเวณป้ายรถรางแห่งหนึ่งในคืนวันเกิดเหตุ หวังว่า ประชาชนที่ทราบเบาะแสเกี่ยวกับคนร้าย อาจจะแจ้งให้ตำรวจทราบ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

+++ด้านมหาวิทยาลัยลา โทรบ ระบุในแถลงการณ์ว่ารู้สึกตกใจและแสดงความเสียใจต่อเหตุฆาตกรรมครั้งนี้ และจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ตำรวจคลี่คลายคดีโดยเร็ว

แฟ้มภาพ