ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.35น.วันที่16 มกราคม 2562

16 มกราคม 2562, 19:18น.


+++นายสุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า มาตรการแก้ปัญหาฝุ่นควันขณะนี้เหมาะสม เพราะแก้ที่จุดกำเนิด เนื่องจากสาเหตุฝุ่นละอองมาจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของรถยนต์ รถควันดำ และสภาพอากาศปิดทำให้อากาศค้างอยู่กับที่ ปีหน้าก็จะเจออีก พบกับตัวเลขเกินมาตรฐานอีก แต่จะหนักหรือเบาขึ้นกับสภาพอากาศ อย่างไรก็ตาม ช่วง 1-2 วันจากนี้ ฝุ่นควันจะลดลง แต่จะต้องเฝ้าระวังอีกครั้งวันที่ 18 ม.ค. เพราะจากการพยากรณ์อากาศจะมีความกดอากาศสูงเข้ามา ส่งผลให้อากาศมีความชื้น ฝุ่นจะกลับมา ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



+++พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการกองบังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า มาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จะเพิ่มจุดตรวจจับรถควันดำอีก 8 จุด จากเดิมมี 12 จุด รวมเป็น 20 จุด โดยประสานกรมควบคุมมลพิษนำเครื่องมือมาตรวจจับ



+++เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ตั้งด่านควันดำ จับควันดำเกินมาตรฐานได้ 651 คัน สำหรับรถเล็ก จะใช้อำนาจกรมควบคุมมลพิษ( คพ.)  ติดสติ๊กเกอร์ห้ามใช้ชั่วคราว 30 วัน



+++ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อ จะฉีดสเปรย์ข้างรถ โดยรถที่ผิดกฎหมายจะต้องปรับเปลี่ยนและผ่านการตรวจวัดสภาพอีกครั้ง จึงจะสามารถนำมาใช้ได้ตามปกติ นอกจากนี้จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามจอดรถยนต์ในถนนสายหลัก 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะตามร้านอาหารข้างทางที่มักจะมีรถยนต์จอดเป็นประจำ และทำให้รถติด จะกำชับและสั่งการด่วนไปยังสถานีตำรวจต่างๆ ให้ใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น



+++นางพริ้มเพรา วงศ์สุทธิรัตน์ ผู้ช่วยผอ.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันมีรถเมล์ ขสมก. ให้บริการ 2,800 คัน เป็นรถโดยสาร NGV 700-800 คัน รถดีเซล 2,000 คัน ซึ่งปกติใช้น้ำมัน B7 เมื่อเกิดปัญหาฝุ่น จึงมีมาตรการป้องกันและปรับเปลี่ยน โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค. เปลี่ยนเป็นน้ำมัน B20 จำนวน 800 คัน ที่เหลืออีก 1,200 คัน ขสมก.จะเร่งรัดปรับเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด ส่วนการแก้ไขในระยะยาวในปี 2565 รถโดยสารเก่า 2,000 คันจะหมดไป จะเป็นรถโดยสาร NGV รถโดยสารไฟฟ้า และรถโดยสารไฮบริดเข้ามาแทน



+++อีกหนึ่งวิธีที่สามารถดำเนินการได้ทันที โดยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน โดยให้ข้าราชการ พนักงาน ทำงานที่บ้าน เพราะบางงานไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ทำงานก็สามารถส่งงานผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ให้เหมือนเป็นยุคไทยแลนด์ 4.0



+++พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึง รายละเอียดของวิธีหาเสียงที่น่าสนใจ เรื่องโซเซียลมีเดีย ที่กำหนดให้ผู้สมัครหาเสียงได้ทั้งในเฟชบุ๊ก ไลน์และแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ โดยคิดเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้สมัครต้องแจ้งต่อกกต.ก่อนการหาเสียง เพื่อป้องกันพวกที่สวมรอยใช้รูป ใช้ชื่อคนอื่นแอบอ้างโจมตีผู้อื่น สำนักงานกกต.จะตั้งวอร์รูมตรวจสอบและทำความตกลงกับเจ้าของเวบไซต์ เวบเพจ เช่น เฟชบุ๊ก ยูทูป เมื่อพบการโพสต์ข้อความไม่ถูกต้อง ใส่ร้ายป้ายสี จะประสานให้ผู้โพสต์ลบทิ้ง หากไม่ลบจะประสานให้กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการ กรณีเป็นการโพสต์มาจากต่างประเทศ จะประสานตัวแทนในประเทศไทยให้ลบ หากเป็นเวบใต้ดิน หาที่มาไม่ได้ก็จะลบเลย แต่จะเตือนไปยังผู้สมัครให้ระวังการกดแชร์ กดไลค์ กองเชียร์ กองแช่งมีเยอะ เพราะถ้าเป็นการกดแชร์หรือไลค์ข้อความใส่ร้าย นอกจากจะผิดอาญาข้อหาหมิ่นประมาทแล้ว ยังผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีโทษใบแดง



+++นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ประชุมร่วมกับนพ.อุดม คชินทร  รมช.ศึกษาธิการ กำหนดรูปแบบและแนวทางขับเคลื่อนกิจกรรมการสร้างพลเมืองที่ดีในสถาบันอุดมศึกษากว่า 80 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้มหาวิทยาลัยต่างๆนำหลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ไปบรรจุไว้ในหลักสูตรที่เกี่ยวกับการผลิตครูในคณะครุศาสตร์และคณะศึกษาศาสตร์ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างสมรรถนะครู และคุณลักษณะพลเมืองที่เข้มแข็งตามวิถีประชาธิปไตย



+++ประธานกกต.ย้ำว่า หน้าที่กกต. ไม่ใช่เพียงจัดการเลือกตั้งเท่านั้น แต่จะต้องส่งเสริมประชาธิปไตยและให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยจะส่งเสริมการสร้างหลักสูตรกลางที่ให้นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งได้เรียน ซึ่งขณะนี้มีการยกร่างเสร็จแล้ว รวมทั้งการจัดทำคู่มือเรียนรู้ประชาธิปไตยสำหรับนักศึกษา สร้างวิทยากรให้สามารถถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยไปยังกลุ่มต่างๆได้ และส่งเสริมทางด้านวิชาการ ตลอดจนการเรียนรู้ร่วมกันและจัดกิจกรรมประชาธิปไตย



+++นพ.อุดม เปิดเผยว่า การพบกันวันนี้ ไม่มีการพูดคุยเรื่องวันสอบ GAT-PAT ว่าจะเลื่อนจากวันที่ 16-17 มี.ค. กลับไปเป็นวันที่ 24 ก.พ. ตามเดิมหรือไม่ หลังจากที่เลื่อนมาเพราะตอนแรกคาดว่าจะเลือกตั้งในวันดังกล่าว โดยระบุเพียงสั้นๆว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่กำหนดวัน และให้ไปถาม กกต.



+++จากกรณีที่มีผู้โพสต์ในสื่อออนไลน์ ในหัวข้อ “สายเขียว เฮลั่น! อนุมัติแล้ว คนไทยสามารถปลูกกัญชาได้ที่บ้าน ไม่เกิน 50 ต้น” เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 โดยมีผู้แชร์ต่อๆ กันอีกจำนวนหนึ่ง  โดยผู้โพสต์ อ้างถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามยาเสพติด กล่าวถึง ความคืบหน้าการนำกัญชาใช้ทางการแพทย์ ซึ่งขณะนี้ตาม ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามประมวลยาเสพติด ในสาระสำคัญ กัญชายังเป็นยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย ส่วนการผ่อนปรนเพื่อให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์หรือการศึกษาวิจัยได้ สำหรับประเด็นการนำเข้า ส่งออก จำหน่ายครอบครอง อยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางการแพทย์ เภสัชกรเป็นผู้ได้รับอนุญาต และได้กล่าวต่อไปอีกว่า “แต่ในกรณีการขออนุญาตปลูกที่บ้าน ที่เป็นบุคคล จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยเท่านั้น เกิดที่ประเทศไทยเท่านั้น ครอบครัวละไม่เกิน 50 ต้น ต้องมีสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อย 3 คน” เป็นข้อมูลที่มีลักษณะบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง



+++นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า การเสนอข่าวดังกล่าวเป็นการนำเนื้อข่าวที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาเติมแทรกข้อความที่เขียนขึ้นเองโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ และประการสำคัญข้อความที่เติมแทรกมานั้น นอกจาก เป็นข้อความอันเป็นเท็จแล้ว ยังสามารถทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ในนโยบายของรัฐและเจตนาของการปรับกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดได้ จึงได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ดำเนินการตรวจสอบหาชื่อ และที่อยู่ของผู้โพสต์ข้อความ และรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความดำเนินคดี  ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และมีหนังสือถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เพื่อพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลดังกล่าวออกจากระบบต่อไป



+++เหตุระเบิดและกราดยิงที่โรงแรมในเครือบริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เมื่อวานนี้  ล่าสุด บริษัทดุสิตธานีได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ หลังเกิดเหตุการณ์ก่อความไม่สงบบริเวณดุสิตคอมเพล็กซ์ โรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบี ประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 15 มกราคม เวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศเคนยา บริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานทุกคนของโรงแรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด บริษัทฯ จะดูแลอย่างเต็มความสามารถ ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ โรงแรมหยุดให้บริการชั่วคราว ประสานงานในการนำแขกที่เข้าพักก่อนหน้านี้ และมีกำหนดจะเข้าพัก ส่งต่อไปยังโรงแรมอื่นในตัวเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



+++กระทรวงการต่างประเทศของไทย (กต.) เปิดเผยผ่านทางทวีตเตอร์ว่า ขณะเกิดเหตุมีพนักงานชาวไทยทำงานอยู่ภายในโรงแรม จำนวน 4 คนจาก 7 คน แบ่งเป็นพนักงานสปา 4 คน พนักงานครัว 3 คน  พนักงานชาวไทยทั้ง 4 คน ได้รับการอพยพออกจากที่เกิดเหตุและอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว



+++กลุ่มอัลชาบับ แม้มีฐานปฏิบัติการอยู่ในโซมาเลียแต่บุกโจมตีข้ามพรมแดนมายังเคนยาซึ่งตั้งอยู่ทางใต้บ่อยครั้ง เนื่องจาก ไม่พอใจที่เคนยาส่งทหารเข้ามาช่วยกองทัพโซมาเลีย ปราบปรามกลุ่มอัลชาบับ ตั้งแต่ปี 2554 และยังคงปฏิเสธถอนทหารกลับไป โดยเหตุการณ์ที่โรงแรมดุสิตดีทู เกิดขึ้นเกือบ 4 ปี หลังกลุ่มอัลชาบับบุกโจมตีมหาวิทยาลัยการิสซา ในเมืองการิสซา ทางตะวันออกของเคนยา เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2558 สังหารหมู่นักศึกษาและผู้ที่อยู่ภายในรวม 148 คน ก่อนที่เจ้าหน้าที่วิสามัญคนร้ายทั้ง 4 คนในที่เกิดเหตุ



+++ประธานาธิบดีอูฮูรู เคนยัตตา ผู้นำของเคนยา แถลงว่า กองกำลังความมั่นคงเคนยา สังหารกลุ่มมือปืนได้ทั้งหมด จากปฎิบัติการ 20 ชั่วโมง ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นคนร้าย 4 คน ตำรวจ ระบุจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน เป็นชาวเคนยา 11 คน ชาวอเมริกัน 1 คนและชาวอังกฤษ 1 คน ส่วนอีก 2 คนยังไม่ทราบสัญชาติ ส่วนจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ประมาณ 30 คน



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ 1,577.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,218.66 ล้านบาท เมื่อช่วงบ่าย มีข่าวธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์)ได้คงอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2561 ไว้ที่ร้อยละ 4.1 แต่ในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 3.8 และปี 2563 โตร้อยละ 3.9 ซึ่งเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลง และทุกประเทศก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน แต่ไทยยังมีตัวช่วยในเรื่องการลงทุน และการบริโภคภายในประเทศ ทำให้น่าจะได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยจากสงครามการค้า



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ นิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดร่วงลง 112.54 จุด ปิดที่ 20,442.75 จุดเนื่องจาก นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับกระบวนการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากรัฐสภาอังกฤษคว่ำร่างข้อตกลง Brexit เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น

+++ฮั่งเส่ง ฮ่องกง  เพิ่มขึ้น 71.81 จุด ปิดที่ 26,902.10 จุด



+++สำนักข่าวเอพี รายงานว่านางเชอริล อินซุนซา บลูม ทนายความประจำศาลคนเข้าเมืองในเมืองทูซอน รัฐแอริโซนา สหรัฐฯ ซึ่งเป็นลูกจ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องหาอาชีพ หารายได้เสริม เลี้ยงครอบครัว เนื่องจาก ในระยะนี้ไม่มีรายได้ หลังปิดสถานที่ราชการชั่วคราว หรือ ชัตดาวน์ มาตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.ปีที่แล้ว ทำให้เธอถูกพักงานชั่วคราวมาแล้วหลายสัปดาห์ เธอหารายได้เสริม ด้วยการแบ่งห้องพักในบ้าน ให้คนเข้ามาเช่าอยู่อาศัย ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่หลายคนทำเพื่อเลี้ยงชีพในภาวะเศรษฐกิจขณะนี้



+++ขณะที่ ลูกจ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ คนอื่นๆ หารายได้เลี้ยงครอบครัวด้วยการขับแท็กซี่อูเบอร์ หรือรับจ้างขับรถให้กับบริษัทขนส่งสินค้า เช่น บริษัทลิฟต์และโพสต์เมตส์ เช่นกรณีของนายคริส จอร์จ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ วัย 48 ปี จากเมืองเฮเม็ต รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่หันมาหารายได้เสริม ด้วยการขับรถบรรทุกสินค้าให้กับบริษัทลิฟท์ ขณะที่บางคนอาจใช้วิธีการหาคนงาน ด้วยการบอกต่อๆกันและทางสื่อออนไลน์ที่ต้องการรับสมัครช่างที่มีฝีมือดีและหางานอิสระอื่นๆทำ เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายในช่วงที่มีการปิดสถานที่ราชการที่ยาวนานที่สุดของสหรัฐฯในขณะนี้ กระทบลูกจ้างหลายแสนคนในสหรัฐฯ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X