สรุปข่าว 12.30น.วันพุธที่ 2 มกราคม 2562

สรุปข่าว 12.30น.วันพุธที่ 2 มกราคม 2562

+++รายงาน คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ระบุเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวต่ำ กว่าประมาณการณ์เดิม จากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ความผันผวนตลาดการเงินโลก การบริโภคภาคเอกชนที่อาจขยายตัวต่ำกว่าประเมิน ส่งผลทำให้ปรับลดจีดีพีปี 61 และ 62 เหลือโตร้อยละ 4.2 และ 4  พร้อมระบุการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอาจไม่ต่อเนื่องเหมือนในอดีต

+++ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้าวันแรกของปี 2562 เปิดที่ 1,569.88 จุด เพิ่มขึ้น 6 จุด ตอบรับความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในวันที่ 7 ม.ค. เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จะมีการหารือการค้าทางโทรศัพท์กับปธน.สีจิ้นผิง รวมถึงปัจจัยจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

+++สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองประจำวันที่ 2 มกราคม 2562 เปิดตลาด 09.38 น. ทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่ 19,550.00 บาท ขายออกอยู่ที่ 19,650.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้ออยู่ที่ 19,192.56 บาท ขายออกอยู่ที่ 20,150.00 บาท ต่อมาในเวลา 10.35 น. ประกาศปรับราคาขึ้นบาทละ 50 บาท เป็นราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 19,600 บาท ขายบาทละ 19,700 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 19,253.20 บาท ขายบาทละ 20,200 บาท

+++ราคาล่าสุดนี้เท่าราคาทอง ณ วันสุดท้ายของปี 2561 วันที่ 31 ธ.ค. สำหรับราคาทองถัวเฉลี่ยของปี 2561 นั้น ทองแท่งรับซื้อบาทละ 19,347.28 บาท ขายบาทละ 19,447.28 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 18,999.21 บาท ขายบาทละ 19,947.28 บาท

+++พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ เจ้าหน้าที่หน่วยงานข่าวและหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทำหน้าที่ ต่อเนื่องตลอด 24 ช.ม. ในการดูแลความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของสังคม รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดช่วงเทศกาลส่งท้ายปีและเทศกาลขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลให้ภาพรวมของช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยและเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขของทุกครอบครัว

+++พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการ "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุในวันที่1 มกราคม 2562 รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 27,947 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 804 คน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเก็บรักษารถจักรยานยนต์ไว้ 661 คัน และส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 23,352 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 29,455 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 604 คน เก็บรักษารถยนต์ 200 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 21,022 คนโดยตลอด 6 วัน ( 27 ธ.ค.61 – 1 ม.ค.62 ) เจ้าหน้าที่ได้เก็บรักษารถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว จำนวน 4,545 คัน (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 3,338 คัน และรถยนต์ 1,207 คัน) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 121,031 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 88,323 คน สำหรับรถที่เก็บรักษาไว้ในช่วงเทศกาล หากไม่มีเหตุด้านคดีความ ผู้เป็นเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้ตามเวลาที่กำหนด

+++นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้อง ให้กกต.ตระหนักต่อหน้าที่ในการจัดเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ปล่อยอำนาจอื่นเข้ามาแทรกแซง สอดคล้องกับประชาชนที่ต้องการเลือกตั้ง  หากจะเลื่อนเลือกตั้ง โดยไม่ประกาศพ.ร.ฎ.วันที่ 2 มกราคมนี้ ตามกำหนดการเดิมซึ่งเป็นอำนาจของรัฐบาล ก็ต้องตอบสังคมให้ชัดเจนว่า เลื่อนเพราะอะไร ต้องดูเหตุผลว่า รับฟังได้หรือไม่ ถ้าเลื่อนแล้วประชาชนไม่เชื่อ ประชาคมโลกไม่ยอมรับ จะมีผลกระทบตามมา แต่ถ้ามีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งประกาศในวันที่ 2 ม.ค.นี้ พรรคก็พร้อมเดินหน้าเต็มที่ เพราะมีเวลาน้อยมาก เพียง 1 เดือน แต่มีความพร้อมต่อการเดินสายปราศรัยในต่างจังหวัด เปิดนโยบายเร่งด่วน และจะเร่งประกาศรายชื่อผู้ลงสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคาดว่าหลังวันที่ 6 มกราคมนี้ ทางพรรคจะเปิดตัวผู้ลงสมัครส.ส.ให้ประชาชนได้รับทราบทันที

+++ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า  ข่าวลือจะเลื่อนการเลือกตั้งนั้น หากมีการเลื่อนจริงจะยิ่งฉุดความน่าเชื่อถือของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ให้ตกต่ำลงจนขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของนานาประเทศทั่วโลก เพราะเคยลั่นวาจาไว้แล้วว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 และต้องฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการการเลือกตั้ง เพราะหวังจะให้ได้รัฐบาลใหม่มาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยากโดยเร็ว รวมทั้งต้องเกรงใจเด็กนักเรียนทั่วประเทศที่ได้เลื่อนสอบGAT-PAT หลีกวันให้การเลือกตั้งแล้วด้วย จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะเลื่อนการเลือกตั้งอีก

+++กรณีที่ประธานาธิบดี โรดริโก ดูแตร์เต ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่าเคยสารภาพบาปต่อบาทหลวงว่าลวนลามหญิงรับใช้ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังเป็นวัยรุ่น ทำให้กลุ่มสิทธิสตรีและพรรคการเมืองฝ่ายค้านประณามการกระทำและเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากประธานาธิบดี มักกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นสตรีในที่สาธารณะ และในครั้งนี้เขากล่าวขึ้นในระหว่างการกล่าวปราศรัยเมื่อวันเสาร์ พรรคกาเบรียลา ซึ่งมีนโยบายสำคัญคือสนับสนุนสิทธิสตรี ประณามอย่างรุนแรงโดยชี้ว่า นายดูแตร์เตไม่คู่ควรกับตำแหน่งของเขาและควรลาออก อย่างไรก็ตามโฆษกของประธานาธิบดีชี้แจงว่า ประธานาธิบดีแต่งเรื่องนี้ขึ้นเพื่อสร้างสีสันในการกล่าวปราศรัยเท่านั้น โดยครอบครัวผู้มีฐานะดีในฟิลิปปินส์มักว่าจ้างแม่บ้าน และหญิงรับใช้จากเอเชียและตะวันออกกลางมาทำงานบ้าน